ยะลา- กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าว เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม ในพื้นที่ บ.ปากบางสะกอม หมู่ที่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น จำนวน 3 คน
โดยเหตุการณ์ความรุนแรงนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นจำนวน 2 ครั้ง ภายในบริเวณที่พักคนงานก่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ในพื้นที่บ้านปากบางสะกอม หมู่ที่ 1 ตำบลสะกอม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน คือ นางสาว ดอน แก้วลอย อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณ ขาข้างซ้าย นาย สมพร นามเขียว อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย และเด็กหญิง มัณฐิตา วิทเวท อายุ 9 ขวบ ได้รับบาดเจ็บบริเวณ ศีรษะและคอ ทั้งหมดถูกนำตัวเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
ล่าสุดที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พันเอกปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวสรุปเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดดังกล่าวจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน นั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบในพื้นที่ และตรวจพบจดหมายข่มขู่ผู้ที่ทำงานในโครงการ พิมพ์เป็นภาษาไทยและภาษาเมียนมา ตกอยู่บริเวณใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น และเวลา 10.40 น. เกิดเหตุระเบิดลูกที่ 3 และ ลูกที่ 4 บริเวณเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 400 เมตร แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อทำให้พื้นที่ปลอดภัยป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับพี่น้องประชาชนเพิ่มเติมได้ ก่อนเข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เพื่อรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ เตรียมขยายผลติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การระเบิดบ้านพักคนงานก่อสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมและจดหมายข่มขู่ที่พบในพื้นที่ ทำให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงได้พยายามที่จะทำลายรูปเคารพทางศาสนาซึ่งเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของความเป็นพหุวัฒนธรรม เป็นความพยายามที่จะสร้างสังคมเชิงเดี่ยว โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม ซึ่งความเป็นพหุวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องที่ดีงาม เป็นการอยู่ร่วมกันภายใต้ความหลากหลาย และท่านแม่ทัพภาค 4 ได้ให้ความสำคัญและได้มอบนโยบายในการสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดความเป็นพหุวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน มาโดยตลอด” รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว
พันเอกปองพล ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามหยิบยกประเด็นความขัดแย้งทางศาสนามาเป็นปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ความหลากหลายที่มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง และมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เชื่อว่าเป็นความพยายามของกลุ่มบางกลุ่มที่พยายามจะหยิบประเด็นนี้มาสร้างความขัดแย้ง ซึ่งขอให้พี่น้องประชาชนใช้วิจารณญานทำความเข้าใจในเรื่องนี้ อย่าโดนชักจูงหลอกลวง จากกลุ่มบางกลุ่ม ส่วนระเบิดที่เกิดขึ้นภายในแคมป์ที่พักคนงานนั้น ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายลักลอบนำมาวางไว้ ไม่น่าจะเป็น เอ็ม 79 ตามที่มีสื่อรายงานในเบื้องต้น แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
