ทหารชี้แจงกรณีผู้ต้องสงสัยหลบหนีระหว่างคุมตัว
“ผมขอโทษ ผมรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น มันเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ที่ตัดสินใจกระโจนไปหักพวงมาลัยรถ” นายฮัมดี โตะมะ ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พูดกับทีมข่าว หลังจากเขาตัดสินใจเดินเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนคอลอตันหยง จังหวัดปัตตานี เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (26 ธค 67)
ข่าวน่าสนใจ:
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 กำลังคุมตัว นายฮัมดี โตะมะ ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ เดินทางด้วยรถยนต์กระบะ ไปเข้ากระบวนการซักถาม ภายในศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา ในขณะที่เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุถนนสาย 418 ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี นายฮัมดี ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางที่เบาะหลังของรถยนต์กระบะ ได้กระชากพวงมาลัยรถยนต์เจ้าหน้าที่ จนทำให้รถยนต์เกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับราวสะพานข้างทาง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตทันที 1 นาย และบาดเจ็บสาหัส 3 นาย ส่วนนายฮัมดี สามารถหลบหนีออกจากรถไปได้
และต่อมาได้มีสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งคาดว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง กล่าวโจมตีบิดเบือนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนกระทั่งเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 ธันวาคม 2567 นายฮัมดี ได้ตัดสินใจออกมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคอลอตันหยง โดยเขามีอาการบาดเจ็บที่แขนขวา จากอุบัติเหตุดังกล่าว และทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ได้ประสานทหารพราน เข้ารับตัวก่อนที่จะส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลปัตตานี และปัจจุบันถูกนำตัวส่งไปที่ศูนย์ซักถาม ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา
ส่วนทางด้าน พันเอกเกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า บอกว่า สำหรับนายฮัมดี ได้ให้การรับสารภาพว่า เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ รวม 7 เหตุการณ์ และขณะนี้อยู่ในระหว่างการซักถาม เพื่อขยายผลไปยังผู้ร่วมปฎิบัติการรายอื่น
“อย่างไรก็ตามได้มีสื่อสังคมออนไลน์พยายามกล่าวหาชี้นำสังคม บิดเบือนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีความโปร่งใส เจ้าหน้าอยู่ในอาการมึนเมา และพยายามขู่ฆ่า นายฮัมดี ตลอดเวลา รวมทั้งในระหว่างการหลบหนี นายฮัมดีฯ ได้แย่งชิงอาวุธของเจ้าหน้าที่ไปด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ยิงปืนใส่ จึงจำเป็นต้องหนี โดยคำกล่าวอ้างดังกล่าว เป็นคำกล่าวที่เลื่อนลอย ไม่มีหลักฐานและมูลความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างโปร่งใสชัดเจน รวมทั้งในวันดังกล่าว ไม่มีอาวุธของเจ้าหน้าที่สูญหายและไม่ได้ทำการยิงปืนออกไปแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทุกนายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงกระแทกของรถยนต์และไม่ได้อยู่ในภาวะเตรียมตัว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลที่รับทราบจากสื่อในช่องทางต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจและร่วมกันแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำพาความสงบและสันติสุขอย่างยั่งยืนมาสู่พื้นที่ ต่อไป” พันเอก เกียรติศักดิ์ กล่าว
ด้านนาย ฮัมดี โตะมะ บอกกับทีมข่าวหลังเข้ามอบตัวว่า ในวันเกิดเหตุ ขณะที่เขากำลังเดินทางมาที่จังหวัดยะลา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็เห็นสะพาน ก็กระโจนไปหักพวงมาลัย แต่ก็รู้ว่าในรถมีกล้องบันทึกภาพเอาไว้ตลอด หลังเกิดเหตุก็รู้สึกผิดที่ทำเช่นนั้น รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนเกิดเหตุก็คิดว่าอาจจะไม่รอดชีวิตเหมือนกัน แต่หลังจากที่หลบหนีไป เขาก็ตัดสินใจกลับมามอบตัว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: