กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจง ทำความเข้าใจกรณีเพจ : Wartani ได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมข้อความบิดเบือน กรณี “เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว” ที่อำเภอจะแนะ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.ไฟรุส มูซอ ณ บ้านเลขที่ 73 ม.3 บ้านสูเเฆ ต.ดุซงญอ อ.จะเเนะ จ.นราธิวาส และเพื่อนบ้านอีกหนึ่งคน ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าควบคุมตัวที่ไหน และไม่ทราบว่าข้อหาอะไร
พันเอกธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่เพจ: Wartani นำเสนอข่าวคลุมเครือและบิดเบือน โดยได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว” ที่จะแนะ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.ไฟรุส มูซอ ณ บ้านเลขที่ 73 ม.3 บ้านสูเเฆ ต.ดุซงญอ อ.จะเเนะ จ.นราธิวาส และเพื่อนบ้านอีกหนึ่งคน ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าควบคุมตัวที่ไหน และไม่ทราบว่าข้อหาอะไร
(แฟ้มภาพเก่า)
จากพฤติกรรมของแอดมิน เพจ: Wartani บ่อยครั้งที่มีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน เนื้อหาคลุมเครือ ขาดข้อเท็จจริง นำเสนอข้อเท็จจริงเพียงครึ่งเดียว มีการตั้งคำถามให้ผู้ที่ติดตามข่าวสารคิดโดยไร้ข้อมูลในการตัดสินใจ นำไปสู่ความสงสัย เกิดความเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐรังแกประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อให้เห็นว่ามีการควบคุมตัวสุภาพสตรี ซึ่งเป็นเพศที่อ่อนแอยิ่งสร้างความเกลียดชัง สุดท้ายเกิดการเข้าใจผิดนำไปสู่การบิดเบือนความจริงในการปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิด
(แฟ้มภาพเก่า)
เมื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว พบว่า การเข้าปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ มาจากคำซัดทอดของผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง กรณีเหตุปะทะที่เขารือเปาะ เมื่อ 3 พฤษภาคม 2562 ว่า นายมูฮัมหมัด ดือราซอ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 87 ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่บ้านสุแฆ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 หน่วยปฏิบัติการร่วมนราธิวาส,ชุดสืบสวน จ.นราธิวาส และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ได้สนธิกำลังในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 87 ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ผลการปฏิบัติเจ้าหน้าที่พบบุคคลเป้าหมาย นายมูฮัมหมัด ดือราซอ อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวแต่ไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด โดยนายมูฮัมหมัด ได้ให้ข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ ผู้ก่อเหตุรุนแรง อยู่บ้านเลขที่ 73 ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
(แฟ้มภาพเก่า)
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันเดียวกันเจ้าหน้าที่พร้อมด้วย นายมาหะมะ สะมะแอ กำนัน ต.ดุซงญอ, นายซัมรี เจ๊ะแม โต๊ะอิหม่าม, นายอับดุลเลาะ เจ๊ะแม ผู้ช่วยฝ่ายปกครอง ม.3 ต.ดุซงญอ ร่วมกันบังคับใช้กฎหมายเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 73 ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ขณะเข้าดำเนินการมีบุคคลวิ่งหลบหนีออกทางหลังบ้าน และจากการตรวจสอบภายในบ้านพบสิ่งของเครื่องดำรงชีพในป่าหลายรายการ และอาวุธปืนขนาด .22 นิ้ว สภาพพร้อมใช้งาน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จำนวน 2 กระบอก ซึ่งต้องสงสัยว่าอุปกรณ์และอาวุธปืนดังกล่าวมีส่วนร่วมใช้ในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์และอาวุธปืนดังกล่าวไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบ
(แฟ้มภาพเก่า)
ในระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 73 ซึ่งเป็นบ้านเป้าหมายอยู่นั้น พบ น.ส.ไฟรุส มูซอ อยู่ภายในบ้าน จึงขอความร่วมมือ น.ส.ไฟรุส ได้ไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของและอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดดังกล่าว ณ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยมีนายมาหะมะ สะมะแอ กำนัน ต.ดุซงญอ, นายซัมรี เจ๊ะแม โต๊ะอิหม่าม, นายอับดุลเลาะ เจ๊ะแม ผู้ช่วยฝ่ายปกครอง ม.3 ต.ดุซงญอ เป็นพยานรับทราบ และเมื่อ น.ส.ไฟรุส ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงให้กลับบ้านเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้บังคับใช้กฎหมายโดยการเชิญตัว นายอาซือมิง มูซอ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน โดยมี นายอับดุลเลาะ เจ๊ะแม ผู้ช่วยฝ่ายปกครอง เป็นพยานร่วมด้วย ทั้งนี้ ได้ควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และส่งตัวให้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ควบคุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ญาติ นายอาซือมิง ทราบถึงสถานที่ควบคุมตัวเป็นที่เรียบร้อย ทั้งการดำเนินการส่งตัวเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการเชิญตัวบุคคลของเจ้าหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 และส่งตัวให้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เข้าดำเนินกรรมวิธีซักถาม จำนวน 2 คน คือ นายมูฮัมหมัด ดือราซอ และ นายอาซือมิง มูซอ ไม่ได้ควบคุมตัว น.ส.ไฟรุส มูซอ ต่อแต่อย่างใด ตามที่เพจ: Wartani นำเสนอข่าว และได้ทำการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัยเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.
(แฟ้มภาพเก่า)
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอยืนยันว่าหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ และไม่เป็นไปตามที่เพจ : Wartani กล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงก่อให้เกิดความสับสนและเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จึงขอให้พี่น้องประชาชนพิจารณา ในการใช้ข่าวสารอย่างรอบคอบ
