เกษตรกรชาว อ.รามัน จ.ยะลา ปลูกสับปะรดพันธุ์ “ปัตตาเวีย” แซมในสวนยาง สร้างรายได้เดือนละกว่า 3 หมื่น หลังปัญหาราคายางตกต่ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนสับปะรดพันธุ์ “ปัตตาเวีย” ม.4 บ้านสาเมาะ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นของนายเดช ศักดิ์สองเมือง เกษตรกรชาวสวนยาง ที่ปลูกสับปะรดแซมในสวนยางพาราในเนื้อที่ 40 ไร่ เก็บผลผลิตส่งขายสร้างรายได้มากกว่า 3 หมื่นบาท ต่อเดือน
นายเดช ศักดิ์สองเมือง เปิดเผยว่าได้ปลูกสับปะรดแซมในสวนยาง เพราะกว่ายางจะโตจนกรีดได้ใช้ระยะเวลาถึง 8 ปี ช่วงปลูกสับปะรดเป็นรายได้เสริม เป็นช่วงราคายางเริ่มตกต่ำ ตามโครงการของกองทุนการยางแห่งประเทศไทยสนับสนุนปลูกพืชเสริม ไร่ละ หนึ่งหมื่นหกพันบาท ตอนนี้รายได้จากจำหน่ายสับปะรด วันละ100 กิโลกรัม รายได้ ประมาณ 1 พันบาท ถึง หนึ่งพันห้าร้อยบาท ปลูกในเนื้อที่ 40 ไร่ ที่ผ่านมาช่วงที่ผลผลิตออกมามาก รายได้วันละ 6 พัน บาท ตอนนี้ทยอยตัดเรื่อยๆ มีพ่อค้า มารับถึงสวน และส่งขายตามหน่วยงาน โรงเรียน ลูกเล็ก ส่งขายในราคา ราคา 15 บาท สำหรับลูกใหญ่ ราคา 18-20 บาท เป็นสับปะรดพันธุ์ “ปัตตาเวีย”การปลูกสับปะรดสำคัญที่การดูแล รักษา ถ้าดินสมบูรณ์ ดูแลอย่าให้รก ต้นที่สมบูรณ์หยอดสารเร่งดอกบังคับไม่ให้ออกลุก เพื่อที่จะให้ออกลูกสม่ำเสมอ พร้อมกัน ตัดผลผลิตพร้อมกัน ถ้าไม่บังคับให้ออกผลผลิตพร้อมกัน การดูแลลำบาก
“ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงใกล้เข้าเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ราคาสับปะรดก็จะดีขึ้น ขณะนี้ผลผลิตของสับปะรดเพิ่งจะได้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และตัดขายได้ประมาณ 1 แสน 5 หมื่น บาทแล้ว คิดว่าถ้าขายได้หมดสวนจะได้ประมาณ 1 ล้านบาท ปลูกสับปะรดใช้เวลา 1 ปี ก็จะให้ผลผลิต สามารถปลูกได้ 4.500 ต้นต่อ 1 ไร่ โดยเกษตรกรท่านใดสนใจที่จะปลูกสับปะรด ก็สามารถติดต่อตนได้ที่หมายเลข 063-0801570 ซึ่งพร้อมให้คำแนะนำ” นายเดช กล่าว
ด้านนางสาวเพ็ญนภา ฤทธิมาส หัวหน้าแผนกส่งเสริมสถาบันเกษตรกรและตลาด การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับการขอการรับการส่งเสริมปลูกแทน การยางแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนเกษตรกรการทำสวนยางที่มาขอทุนสนับสนุนปลูกแทนสวนยาง สนับสนุนงบประมาณ 1 หมื่น 6 พันบาท ต่อไร่ ในการดูแลตลอดระยะเวลา 7 ปี จะมีการส่งเสริมไม่ว่าจะเป็นการปลูกแซมยางเพื่อให้เกษตรกรยางมีรายได้ ในระหว่างรอยางได้รับผลผลิต ถ้ายางอายุ 1-3 ปี แนะนำให้ปลูกสับปะรด ซึ่งเป็นรายได้ที่จะสามารถมีให้กับเกษตรกรสวนยางที่รอผลผลิตในอีก 7 ปี ข้างหน้า การปลูกแซมจะไม่มีผลกระทบต่อต้นยางแต่เป็นการช่วยให้ดูแลต้นยางอีกทางหนึ่ง ต้นยางจะโตสม่ำเสมอ เช่นบางพื้นที่ช่วงท้ายๆแปลงต้นยางจะเล็ก แคระ แกร่น แต่ถ้าได้ปลูกแซมทั้งสวนจะโตสม่ำเสมอ จะสามารถเปิดกรีดทั้งแปลง ซึ่งเกษตรกรที่มีสวนยางอายุ เกิน 25 ปี ก็สามารถขอรับทุนส่งเสริมปลูกแทนที่สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย จังหวัดยะลา
