นครศรีธรรมราช : เจ้าหน้าที่พร้อมรถแบคโฮ ช่วยกันดึงซากช้างป่าเพศผู้อายุ 40-50 ปี ขึ้นมาจากบ่อพักน้ำกลางป่าของชาวบ้าน ก่อนทำพิธีฝัง เล็งเสนอขุดบ่อน้ำทางการเกษตรริมป่า จะต้องลึกไม่เกิน 2 เมตร ปักหลักสูง และล้อมคอก กันสัตว์ตกลงไป
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ความคืบหน้า การกู้ซากช้างป่าเพศผู้ ที่ตกลงในใบบ่อพักน้ำภายในสวนทุเรียนของชาวบ้าน พื้นที่ ม.6 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช วานนี้ (17 พ.ย.64) นายสัญญา ไทยหาญ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้นบพิตำ พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ชะตาแก้ว หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขานัน ที่ 1 (คลองกลาย) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่อีกครั้ง พร้อมด้วยรถแบคโฮ เพื่อช่วยดึงซากช้างขึ้นมาจากบ่อน้ำดังกล่าว
ซึ่งน้ำในบ่อได้ลดลงจากวานนี้ เนื่องจากช้างใช้งาแทงลงดินเพื่อพยายามพยุงตัวเองขึ้นจากบ่อให้ได้ แต่เนื่องจากพื้นบ่อปูด้วยพลาสติกจึงทำให้ช้างลื่นไถล ไม่สามารถพยุงตัวเองขึ้นมาได้ จึงล้มลง (ตาย)
ภายหลังนำซากช้างเคราะห์ร้ายขึ้นมาจากบ่อพักน้ำได้ สัตวแพทย์จึงตัดเอางาช้างอันสวยงามออกจากตัวช้าง ก่อนทำพิธีขุดหลุมฝังช้าง โดยมีพระสงฆ์จากวัดปากลง มาสวดก่อนทำพิธีฝัง
เจ้าหน้าที่นายหนึ่ง เปิดเผยว่า ช้างดังกล่าว เป็นช้างสารเพศผู้ อายุประมาณ 40-50 ปี มีรูปทรงลักษณะสวยงาม น้ำหนักตัวประมาณ 5 ตัน มีงางอกออกมายาว 1.3 เมตร ชาวบ้านพบเห็นช้างตัวนี้บ่อย มักออกมาเพียงตัวเดียว ไม่อยู่รวมกลุ่ม คาดว่าน่าจะออกมาหากินแล้วลื่นตกลงไปในบ่อพักน้ำของชาวบ้าน ประกอบกับช่วงนี้ฝนตกทำให้ดินแฉะ เหยียบขอบบ่อเลยตกลงไป
ส่วนจะมีมาตรการป้องกันเหตการณ์ลักษณะนี้อย่างไร เจ้าหน้าที่รายนี้บอกว่า การแก้ไขคือการขุดบ่อน้ำเพื่อกักเก็บน้ำใช้ในการเกษตร จะต้องลึกต้องไม่เกิน 2 เมตร หรือ ต้องตื้นกว่านั้น เมื่อสัตว์ตกลงไปจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และจะต้องมีท่อถ่ายน้ำทิ้งให้สามามารถเปิดน้ำทิ้งได้ตลอดเวลา อย่างเมื่อ 2 ปีก่อนที่มีลูกช้างตกบ่อในลักษณะนี้ แต่เป็นบ่อที่ไม่ลึกมาก เวลาผ่านไปไม่นานช้างก็สามารถช่วยตัวเองขึ้นจากบ่อได้ ประการสำคัญ ควรจะยกระดับปากบ่อขึ้นมาให้สูงเพื่อกันสัตว์ตกบ่อด้วย
มีรายงานว่า หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้นบพิตำ เตรียมนำเสนอผู้บังคับบัญชา ให้ชาวบ้านที่ขุดบ่อน้ำทางการเกษตรบริเวณริมป่า จะต้องปักหลักสูงและล้อมคอก เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าขนาดใหญ่ตกลงไปได้ และนำไปปฏิบัติทั่วประเทศ เพื่อเป็นการอนุรักษ์สัตว์ป่าต่อไป
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
