เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ส.ค.66 ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ชาวบ้านกว่า 100 คน ได้รวมตัวถือป้ายร้องทุกข์กับสื่อมวลชน และวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็น และมลพิษทางอากาศของโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.18 ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร โดยความเดือดร้อนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวบ้านมานานตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ร้องเรียนไปยังโรงงานปุ๋ยดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งวัตถุดิบหลักของการผลิตปุ๋ยคือขี้ค้างคาว ทำให้มีผลกระทบในเรื่องกลิ่นและฝุ่นละอองทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และเมื่อฝนตกลงมาก็จะมีน้ำจากหลังคาโรงงานชะล้างสารเคมีและสิ่งสกปรกต่างๆไหลลงพื้นที่ต่ำส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประชาชนในบริเวณใกล้เคียงโรงงาน ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีทั้งสิ้น 4 หมู่บ้านได้แก่ ม.2 ,3 ,9 ,18
โดยทางผู้ปนะกอบการโรงงานปุ๋ยชี้แจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.66 มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบบริเวณโรงงานแล้ว และจะดำเดินการแก้ไขปัญหาภายในโรงงานที่คาดว่าจะส่งผลกระทบในบริเวณโดยรอบต่อประชาชนในพื้นที่ ทั้งเรื่องการซ่อมรูรั่วของอาคารเก็บวัตถุดิบ ,การควบคุมการบริหารจัดการวัตถุดิบในโรงงาน ,การดูแลความสะอาดพื้นที่ภายในโรงงาน ,การตรวจสุขภาพพนักงานในโรงงาน และสร้างความเข้าใจให้กับชุมชนข้างเคียงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา
โดยในวันนี้ นายอดิสรณ์ ศรศิลป์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านบ่อถ้ำ และ นายบุญเชิด ฤกทธิ์อ้น อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 18 บ้านใหม่บ่อถ้ำ ,น.ส.จิตรกัญญา ศรีนิล อายุ 47 ปี สารวัตรกำนันตำบลบ่อถ้ำ ,นายวีระ บุญมี ส.อบต. หมู่ 18 ,นายศักดิ์ชัย เหลืองวสุธา ส.อบต หมู่ 2 นำชาวบ้านร่วมร้องทุกข์รวมตัวร้องเรียนเรื่องความเดือนร้อนจากผลกระทบกลิ่นเหม็น ,ฝุ่นละออง ,น้ำเสียจากโรงงาน มีความกังวลว่าจะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน โดยการพูดคุยร่วมกันจากกลุ่มผู้นำชุมชน พร้อมชาวบ้านในพื้นที่บางส่วน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานอุตสาหกรรมจังหวัดกำแพงเพชร ผู้นำท้องที่ ผู้นำทัองถิ่น เข้าพูดคุยหาทางออกร่วมกันกับตัวแทนผู้ประกอบการโรงงานปุ๋ยดังกล่าว ได้โตเถียงถึงความเดือดร้อนจากปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างดุเดือด โดยสุดท้ายทางผู้ประกอบการโรงงานปุ๋ยขอเวลาลงพื้นที่ร่วมกับชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาให้จบภายใน 90 วัน
