ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ความเป็นไทย “รสชาติ….ที่หายไป” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของอาหารไทย อาหารท้องถิ่น ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตคนไทย รวมถึงการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งเสนอสาระความรู้เกี่ยวกับอาหารไทย และอาการท้องถิ่น ต่อยอดสมุนไพรไทย สรรพคุณทางเลือกและส่งต่อเป็นภูมิปัญญาที่มีการสืบทอดรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพของเครือข่ายวัฒนธรรม ในการบริหารจัดการงานวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้พิจารณาคัดเลือกกิจกรรม 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น โดยจังหวัดกำแพงเพชรได้รับการคัดเลือก “แกงมัสมั่นกล้วยไข่” เป็นอาหารประจำถิ่น อาหารคิดค้นต่อยอดจากวัสดุท้องถิ่นขึ้นใหม่
ทั้งนี้ สำหรับการพัฒนาเมนูกล้วยไข่ ที่ไม่ใช่แค่ทำเมนูขนมหวานและรับประทานผลสุกเท่านั้น ซึ่งอาจารย์รุ่งธรรม ศรีวรรธนศิลป์ จากวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร คณะคหกรรมศาสตร์ ผู้ดูแลศูนย์บริรักษ์ไทย ได้คิดค้นนำกล้วยไข่มาดัดแปลง เป็นเมนูอาหารคาวอย่างลงตัว นั่นก็คือ “แกงมัสมั่นกล้วยไข่” ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งในวันนี้ได้สาธิตแกงมัสมั่นกล้วยไข่ให้ได้ลองชิม เมื่อเตรียมเครื่องแกงเครื่องปรุงให้ครบ
เริ่มจากหั่นกล้วยไข่ดิบที่ผ่านการต้มให้สุกแล้ว นำมาปลอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นให้พอดีคำระหว่างนั้นตั้งกระทะให้ร้อน ใส่หัวกระทิลงไปคั่วให้แตกมันจนหอม ตามด้วยพริกแกงมัสมั่นคนให้เข้ากัน ต่อด้วยเนื้อไก่หันเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปใช้ไม้พายคนต่อเนื่อง ตามด้วยหางกะทิ แล้วน้ำมะขามเปียก ไม่รอช้าต่อด้วยน้ำตาลมะพร้าวคลุกเค้าจนเข้าที่ พร้อมใส่ลูกกังวาน และพระเอกของงานกล้วยไข่ต้มสุก ตักใส่ลงไปคนสักคู่ เพิ่มความหอมด้วยหัวหอมคั่ว ต่อด้วยใส่ถั่วลิสงคั่วคลุกเค้าอีกครั้ง เท่านี้ก็เรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นอันเรียบร้อย
อาจารย์รุ่งธรรม ศรีวรรธนศิลป์ ผู้ดูแลศูนย์บริรักษ์ไทย เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเสนอเมนู อาหาร “แกงมัสมั่นกล้วยไข่” เนื่องจากจังหวัดกำแพงเพชรเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องกล้วยไข่ จึงนำกล้วยไข่มาต่อยอดและเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร ส่วนแกงมัสมั่นเครื่องปรุงเหมือนทั่วไป แตกต่างตรงที่ว่า นำกล้วยไข่มาใช้แทนมันฝรั่ง ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้กล้วยไข่มีความเหนียวหนึบ นำผลกล้วยไข่ดิบไปต้มก่อน แล้วน็อคด้วยน้ำเย็นจะทำให้ผลกล้วยไข่มีความเหนียวหนึบ
ทั้งนี้ นอกจากกล้วยไข่ที่จะรับประทานสุกแล้ว ผลดิบนำไปฝานเป็นชิ้นทอดขายเป็นของฝาก ผลกล้วยไข่ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้อีกหลากหลายเมนู โดยเฉพาะอาหารคาว ทั้ง ยำ ผัด แกง และทำเป็นอาหารหวาน มีความอร่อยเช่นกัน
“อาจารย์รุ่งธรรม ศรีวรรธนศิลป์” ผู้ดูแลศูนย์บริรักษ์ไทย เล่าว่า “วันนี้นำเสนอเมนู “แกงมัสมั่นกล้วยไข่” ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเมนู 1 จังหวัด 1 เมนู อาหารพื้นถิ่นของ จ.กำแพงเพชร ในหัวข้ออาหารที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่ง จ.กำแพงเพชร เป็นจังหวัดที่ทำเกี่ยวกับเกษตรกรรมผลผลิตกล้วยไข่ จึงนำมาต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร โดยนำกล้วยไข่ดิบมาทดแทนมันฝรั่ง ซึ่งก็ให้รสชาติที่อร่อยกว่าเดิม โดยนำกล้วยไข่ดิบเอาไปต้มและนำไปน๊อคน้ำเย็นและนำมาแกง ซึ่งจริงๆกล้วยไข่สามารถนำมาทำเมนูอาหารมากมาย ทั้งยำ ตำ ผัด แกงเขียวหวาน แกงกะทิ ซึ่งของเราจะเน้นเป็นอาหารหวานประเภท ครัวซองใส้กล้วยไข่ พายกล้วยไข่ วุ้นกล้วยไข่ เค๊กกล้วยไข่
