เคาะแล้ว! “ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน ขึ้นแท่นนั่งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนใหม่ ยืนยันทำงานทันที พร้อมดึงคนรุ่นใหม่แก้ปัญหาประเทศ ส่วน “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค แนะต้องใช้เทคโนโลยีพัฒนาการบริการด้านสาธารณสุข
นพ.ชลน่าน พร้อมดึงคนรุ่นใหม่ ร่วมแก้ปัญหาประเทศชาติ
วันนี้ (28 ตุลาคม 2564) ในระหว่างการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น นั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่าเป็นไปเพื่อให้เกิดการส่งไม้ต่อแก่คนรุ่นใหม่ ทำให้มีการประชุมใหญ่เกิดขึ้น โดยที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ได้ลงมติเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 23 คน มีรายชื่อดังนี้
1. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค
2. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค
3. นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค
4. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค
5. นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค
6. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
7. นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ รองเลขาธิการพรรค
8. นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ รองเลขาธิการพรรค
9. นางมนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค
10. นายคุณากร ปรีชาชนะชัย รองเลขาธิการพรรค
11. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค
12. นายนพ ชีวานันท์ รองเลขาธิการพรรค
13. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค
14. นางสาวอรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค
15. นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค
16. นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรค
17. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค
18. นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค
19. นางสาวจิราพร สินธุไพร กรรมการบริหารพรรค
20. นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล กรรมการบริหารพรรค
21. นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค
22. นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี กรรมการบริหารพรรค
23. นางสาวธีราภา ไพโรหกุล กรรมการบริหารพรรค
ข่าวน่าสนใจ:
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยหลังได้รับตำแหน่งว่า วันนี้ประเทศชาติกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตโรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตศรัทธาประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนถูกคุกคาม สิ่งเหล่านี้เกิดจากการรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายอันใหญ่หลวงที่จะติดตามมา พร้อมกันนี้ยังชี้ว่า รัฐบาลนี้ขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ ขาดข้อมูลข้อเท็จจริงที่จะใช้ในการแก้ปัญหา จนทำให้เกิดความเสียหายซ้ำซาก
“วันนี้พรรคเพื่อไทย ผมและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่, คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางทางการเมือง คณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย พร้อมระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ด้วยประสบการณ์และสติปัญญาที่พวกเราได้รับการสั่งสมจากอดีตตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนจนถึงพรรคเพื่อไทย ผสมผสานกับความสามารถและสติปัญญาอันเป็นเลิศของผู้คนในปัจจุบัน มาเป็นพลังเข้มแข็งนำพาประเทศและพี่น้องก้าวข้ามวิกฤตที่กำลังที่เกิดขึ้น เพื่อไปสู่อนาคตที่สดใสในวันพรุ่งนี้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุต่อว่า พรรคมุ่งมั่นเอาจุดแข็ง คือ องค์ความรู้ และมันสมองอันเป็นเลิศของคนรุ่นใหม่ มารวมประสานกันเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยที่มีระบบเผด็จครอบงำปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ ไร้อิสระที่จะแสดงความเห็น จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะระเบิดพลังสมองคนรุ่นใหม่ออกมาเพื่อเป็นประโยชน์ให้ประเทศชาติ
นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยืนยันว่าจะทำงานทันที พร้อมเดินหน้าสานต่อภารกิจตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ให้เป็นไปตามคำขวัญที่ว่า “พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน” และ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ซึ่งคำว่า “พรุ่งนี้” ไม่ใช่การผลัดวันประกันพรุ่ง แต่ “พรุ่งนี้” หมายถึง อนาคตที่เราจะสร้างในปัจจุบัน เพื่อให้เห็นภาพอนาคตที่แท้จริง
สานเจตนารมณ์ ไทยรักไทย-พลังประชาชน “สุรพงษ์” นั่ง ผอ.พรรคเพื่อไทย คนใหม่
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ‘นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี’ ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ขึ้นพูดในหัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ในระหว่างการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค โดยได้เปิดเผยว่า คนที่ฝันเพื่ออนาคตเพื่อนมนุษย์ที่รู้จักมาในชีวิตมี 2 คน คนแรก คุณหมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ที่มีความฝันจะสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้คนไทย ปัจจุบันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท เปลี่ยนชีวิตคนไทยไปกว่า 40 ล้านคน และคนที่สอง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยแสดงความเสียดายที่ความฝันที่เป็นจริงเมื่อ 20 ปีที่แล้วต้องสะดุดหยุดลงเพราะรัฐประหารปี 2549 และ 7 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยก็จมดิ่งสู่หลุมดำ ซ้ำเติมชีวิตคนไทย
นพ.สุรพงษ์ ระบุต่อว่า หนึ่งปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจึงปรับเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยความเชื่อว่า ถ้าพรรคไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ก็ย่อมไม่สามารถไปซ่อมหรือสร้างเพื่อการเปลี่ยนแปลงพัฒนาประเทศไทย จึงรวมพลังปัญญาของทุกคนที่มีอุดมการณ์เพื่อประชาชน ปรับเปลี่ยนเพื่อไทยให้กลับมาสร้างฝันที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง
ผอ.พรรคเพื่อไทย เล่าว่า การได้ทำโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค ได้เริ่มต้นเดินหน้าสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง แต่เมื่อ 20 ปีผ่านไป เทคโนโลยีการแพทย์และสุขภาพได้เปลี่ยนแปลง เราสามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาคุณภาพการบริการประชาชนได้ดีขึ้น โดยจะต้องเริ่มต้นที่การกระจายอำนาจและทรัพยากรทางสาธารณสุข โดยนำการแพทย์ทางไกล (เทเลเมดิซีน) มาใช้ในการให้คำปรึกษาเพื่อดูแลผู้ป่วยด้วยโรคพื้นฐานที่ไม่ซับซ้อนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ใช้ระบบข้อมูลอัจฉริยะเพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินทุกคนใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งได้โดยไม่ต้องเรียกหากระดาษ ส่วนในระดับประเทศต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ เพื่อสร้างเครือข่ายระบบสาธารณสุขครบวงจร
นพ.สุรพงษ์ ระบุว่า รัฐจึงควรเริ่มต้นกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารโรงพยาบาลในรูปแบบองค์การมหาชน สำหรับการป้องกันและควบคุมโรค โดยเฉพาะโควิด-19 นอกจากการเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องเร่งพัฒนาระบบการตรวจคัดกรองด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือของนักระบาดวิทยา และ อสม.
“ความฝันทั้งหมดนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าเราไม่มีรัฐบาลที่มาจากประชาชน รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ดังนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันผลักดันความฝันของเราที่เคยร่วมฝันกันไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้วอีกครั้ง ถามตัวเองว่า ยังมีความฝันอะไรที่เรายังไม่ได้ทำและมาเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงเพื่อประชาชน” ผอ.พรรคเพื่อไทย กล่าวปิดท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: