กรุงเทพฯ – “ไอติม-พริษฐ์” CEO แอป StartDee เผย 1 ปีกว่ามียอดดาวน์โหลดมากกว่า 1.3 ล้านดาวน์โหลด ประกาศปักหมุดเป้าหมายสู่แอปพลิเคชันคู่หูการเรียน หลังผู้เรียนส่วนใหญ่ยืนยันจะเรียนต่อทางออนไลน์แม้หมดช่วงโควิด-19 แล้วก็ตาม ตั้งเป้าสู่เบอร์ 1 ของแอปพลิเคชันเสริมการเรียน เดินหน้าพัฒนาเนื้อหาการเรียนการสอนและทีมครูอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2564) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน StartDee กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ตลาดเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) เติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่องถึงแม้วิกฤตโควิด-19 จะจบลง โดยข้อมูล “ASEAN Youth Survey 2020” จาก Sea Group ระบุว่าบริการเรียนออนไลน์จะได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดย 45% คนรุ่นใหม่ใช้บริการเรียนออนไลน์เป็นบริการออนไลน์ที่ใช้มากสุดเป็นอันดับที่ 2 ในช่วงโควิด-19 และ 70% ระบุจะใช้บริการเรียนออนไลน์ต่อแม้โควิด-19 หมดไปแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ EdTech จะยังเติบโตต่อ เป็นผลมาจากผู้บริหารโรงเรียนเล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบบริหารจัดการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) ที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ และเตรียมจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) ในอนาคต ขณะเดียวกัน ความนิยมในการเรียนผ่านแอปพลิเคชันก็เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์นักเรียนทั้งวิซาเรียนที่มีหลากหลายและสามารถเรียนจากที่ไหนก็ได้ อ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจนักเรียนที่เรียนกับ StartDee จำนวน 897 คน
“ในช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัว เราได้ก้าวขึ้นมาเป็นแอปพลิเคชันเสริมการเรียนออนไลน์ที่มียอดดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศกว่า 1.3 ล้านดาวน์โหลด และมีจำนวนสมาชิกเติบโตขึ้นถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่ง StartDee ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อรองรับการใช้งานของทุกกลุ่มผู้ใช้งานให้ครอบคลุมที่สุด เรามุ่งมั่นที่จะให้ StartDee เป็นแอปพลิเคชันคู่หูการเรียนของนักเรียนทุกคนทั่วประเทศ เปรียบเสมือนแอปพลิเคชันการเรียนสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ในมือถือของนักเรียนทุกคน” CEO StartDee กล่าว
ด้านนางสาวชนากานต์ วาสะสิริ ผู้บริหารฝ่ายวิชาการ บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า เนื้อหาและบทเรียนทั้งหมดของ StartDee ได้ถูกออกแบบและผลิตขึ้นโดยทีมคุณครูของ StartDee เองทั้งหมด โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือการผลิตเนื้อหาที่สนุก เข้าใจง่าย และครอบคลุมเนื้อหาวิชาครบถ้วนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในด้านการเรียนสำหรับนักเรียนทุกคน ซึ่งการพัฒนาเนื้อหาบทเรียนที่ดีนั้น ต้องเริ่มจากการพัฒนาบุคลากรคุณครูอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านทักษะวิชาชีพและศักยภาพการทำงานโดย StartDee ได้มีการจัดอบรมคุณครูในหลากหลายด้าน เพื่อถอดบทเรียนและนำมาพัฒนาวิธีการสอนและเนื้อหาบทเรียนให้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ นายกษม อิทธิสวัสดิ์พันธุ์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด ให้ข้อมูลถึงแนวทางการพัฒนาแอปโดยใช้หลักการ One for AIl คือการเป็นแอปการเรียนที่ตอบโจทย์นักเรียนทุกกลุ่ม ประกอบด้วย
(1) นักเรียนที่ต้องการค้นหาบทเรียนที่สงสัยหรือสนใจ สามารถค้นหาทุกบทเรียนผ่านฟีเจอร์ “Search” ได้ทันที เพราะ StartDee มีเนื้อหาครอบคลุมทุกวิชาหลัก พร้อมทั้งวิชานอกห้องเรียน เช่น ความรู้ทางการเงิน, ความรู้ด้านสุขภาพจิต, เพศศึกษา และสิทธิเสรีภาพ โดยตลอดปีที่ผ่านมามีการเพิ่มจำนวนคลิปการสอนจากเดิมที่มี 2,000 คลิปเป็น 10,000 คลิป เพิ่มจำนวนแบบฝึกหัดเป็น 40,000 ข้อ และชีทสรุปเป็น 2,000 ชุด
(2) นักเรียนที่มีจุดประสงค์ในการเรียนเสริมอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาคอร์สเรียนกว่า 400 คอร์สครอบคลุมทุกวิชา เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ทำความเข้าใจและเรียนบทเรียนล่วงหน้าได้
(3) นักเรียนที่เตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย พัฒนาเนื้อหาเจาะลึกเฉพาะสำหรับการเตรียมสอบ พร้อมจัด StartDee Free Exam สนามสอบจำลองฟรีในวิซา GAT/PAT และวิชาสามัญ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากต่อเนื่องทั้ง 2 ปี โดยมีนักเรียนลงทะเบียนสอบรวมกว่า 40,000 คน
“StartDee มุ่งน้นสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับการเรียนออนไลน์ผ่านการพัฒนาฟีเจอร์และการใช้งานอยู่ตลอดเพื่อให้เนื้อหามีความนำสนใจ ทำให้นักเรียนสนุกไปกับการเรียนรู้ อย่าง In-video question เป็นคำถามที่เด้งขึ้นมาระหว่างคลิป เพื่อเช็คความเข้าใจต่อเรื่องนั้นๆ หรือการสร้างเส้นทางการเรียนรู้หลายเส้นทาง (Branching) ที่ขึ้นอยู่กับคำตอบที่ผู้เรียนตอบ โดยจะมีวิดีโอซ่อนที่แสดงขึ้นมาหลังตอบคำถามเพื่อให้คำแนะนำในการหาข้อมูลเพิ่มติม และให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น” นายกษม กล่าว
สำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนเสริมแต่มีอุปสรรคทางการเงิน นายกษม ระบุว่าทาง StartDee มีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจัดทำโครงการต่างๆ เช่น กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อสนับสนุนนักเรียนที่ขาดโอกาสให้ได้เรียนรู้และสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนการสอนทั้งหมดของ StartDee ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ในส่วนของหลักการ All in One นั้น StartDee ได้เริ่มขยายการบริการในรูปแบบต่างๆ ที่เน้นตอบสนองทุกความต้องการด้านการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน ซึ่งมีบริการ StartDee Class โดยนำระบบ LMS ที่ StartDee พัฒนาเข้า
ไปช่วยคุณครูจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ด้วยการนำเนื้อหาที่เป็นรูปแบบวิตีโอ แบบฝึกหัด และสื่อการสอนของ StartDee ไปใช้สอนนักเรียนในห้องได้อย่างไม่มีข้อจำกัด พร้อมทั้งมอบหมายงาน ตรวจข้อสอบ และวิเคราะห์ผลการเรียน ซึ่งกำลังจะดำเนินการกับ 60 โรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดระยอง รวมถึงการเปิดตัวคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่เน้นทักษะการสื่อสารทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยใช้หลักสูตรจากมหาวิทยาลัย Cambridge ประเทศอังกฤษ และมีครูต่างชาติเป็นผู้สอนพร้อมครูไทยที่คอยดูแลควบคู่กัน
นอกจากนี้ StartDee ยังได้วางแผนออกบริการใหม่ๆ ที่รองรับความต้องการของนักเรียนด้านอื่นๆ โดยคาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า (2565) อีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: