กป.อพช.-สคส.-องค์กรเครือข่าย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติการคุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชน ปล่อยชาวจะนะผู้ถูกจับกุม และปฎิบัติตามข้อตกลงของรัฐบาลกับประชาชน
วันนี้ (7 ธันวาคม 2564) เวลา 11.05 น. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (สคส.) และองค์กรเอกชน-เครือข่าย ออกแถลงการณ์ต่อกรณีจับกุมผู้ชุมนุมจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น มีเนื้อหาดังนี้
ตามที่มีปรากฎข่าวสารในสื่อสารมวลชนกระแสหลักและสังคมสื่อออนไลน์ ว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เศษของคืนวันที่ 6 ธันวาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) จำนวนประมาณ 2 กองร้อย ได้ตั้งแถวเข้าล้อม จับกุมกลุ่มประชาชนจำนวน 36 คน ที่เป็นตัวแทนส่วนหนึ่งของประชาชนที่เดินทางมาจาก อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ในนามเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ซึ่งเดินทางมาปักหลักพักค้างโดยสงบ ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล (ประตู 1) เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงที่ตัวแทนรัฐบาล ได้ลงนามร่วมกับตัวแทนประชาชนชาว อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ไปเมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
ซึ่งบัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมากกว่า 1 ปี แต่ไม่ปรากฎว่าฝ่ายรัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าวแต่อย่างใด มิหนำซ้ำรัฐบาลยังคงปล่อยให้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังคงดำเนินกิจกรรมและผลักดันโครงการ “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ต่อไป ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ผิดข้อตกลงที่ตัวแทนรัฐบาลได้ลงนามไว้โดยตัวแทนชาวบ้านส่วนใหญ่เดินทางมาชุมนุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย สตรี และเด็กเป็นส่วนใหญ่
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (สคส.) และองค์กรเอกชนขอประณามการกระทำดังกล่าวของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล ดังนี้
1.ให้ปล่อยตัวตัวแทนประชาชนทั้ง 36 คนโดยทันที อย่างไม่มีเงื่อนไข และ ยุติดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนชาวจะนะโดยทันที
2.ให้รัฐบาลเร่งเปิดโต๊ะเจรจา โดยตัวแทนผู้มีอำนาจจากรัฐ เพื่อหาข้อยุติร่วมกันกับฝ่ายประชาชน อย่างรวดเร็ว และจริงจัง
3.ให้รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเร่งรัดติดตามผลการดำเนินการตามกรอบบันทึกข้อตกลงที่ทำกับตัวแทนประชาชนเมื่อปี 2563 ให้ครบถ้วน ในทันที
4.ให้นายกรัฐมนตรี สั่งการไปยัง ศอบต.ให้ยุติการดำเนินการใด ๆ ที่จะขยายความขัดแย้งในพื้นที่โดยทันที
7 ธันวาคม 2564
พร้อมกันนี้ยังได้แนบท้ายรายชื่อเครือข่ายที่ร่วมออกแถลงการณ์ทั้งหมด 53 เครือข่าย ดังนี้
1. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)
2. สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (สคส.)
3. ศูนย์เสริมสร้างองค์กรชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
4. สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย
5. สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน
6. มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ
7. สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ
8. เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน
9. สมาคมสตรีประมงพื้นบ้านภาคใต้
10. มูลนิธิอันดามัน
11. ชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง
12. เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้
13. ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
14. เครือข่ายแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย (คนไทยพลัดถิ่น) พังงา ระนอง ชุมพร ประจวบฯ
15. เครือข่ายชายฝั่งทะเลบูรพา ๕ จังหวัดภาคตะวันออก
16. สมาคมประมงรักษ์ทะเลสาบ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง
17. ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริมงานพัฒนา (ผสพ.)
18. เครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.)
19. เครือข่ายชุมชนเพื่อปฏิรูปสังคมและการเมือง
20. เครือข่ายเกษตรกร คนจน ปลดแอก
21. เครือข่ายประชาชนลำพูน ปลดแอก
22. ภาคี Save บางกลอย
23. พรรควิฬาร์
24. สมาคมเรือประมงชายฝั่งคลองนาทับ
25. มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)
26. Thai Climate Justice for All
27. ครป.
28. คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35
29. สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
30. มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา
31. เครือข่ายผู้หญิงอีสาน
32. เครือข่ายแรงงานนอกระบบ(ประเทศไทย)
33. มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ
34. กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ
35. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาวนเกษตรฉะเชิงเทรา
36. เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกจังหวัดฉะเชิงเทรา
37. มูลนิธิคนเพียงไพร(ภาคเหนือ)
38. สมาคมสร้างสุขชุมชนคนเมืองลุง
39. NU-Movement
40. ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริมงานพัฒนา
สถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม
41. มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
42. ศูนย์ประสานงานพัฒนาจังหวัดระยอง
43. มูลนิธิพัฒนาอีสาน จ.สุรินทร์
44. เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
45. สมาคมพหุภาคีพัฒนาประชาสังคมจันทบุรี
46. ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนภาคประชาชนจังหวัดจันทบุรี
47. มูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็ก
48. ชมรมอาสาสมัครกฎหมายเพื่อผู้หญิง
49. ศูนย์ประสานงานเพื่อพิทักษ์สตรีเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน
50. สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
51. สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.)
52. กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
53. กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ชุมชนไทดำ(บ้านทับชัน) จ.สุราษฎร์ธานี
ดูรายชื่อเครือข่ายทั้งหมดได้ที่ https://www.facebook.com/NGOCODthailand/posts/1880135592170750
