วันที่ 18 ธันวาคม 2564 นายเชตวัน เตือประโคน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 (ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี และ ต.คูคต อ.ลำลูกกา) จ.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านเพจ “เชตวัน เตือประโคน – Chetawan Thuaprakhon” โดยมีเนื้อหาดังนี้ โดยระบุว่า “20 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้ท่ารถตรงรังสิตก็ยังคงเป็นอย่างนั้น! เปลี่ยนก็แต่ห้างสรรพสินค้าที่ผุดขึ้นมาดูดเงินในกระเป๋าของเราประชาชนมากขึ้นกว่าเก่า”
ผมและเพื่อนๆ อาสาสมัครคณะทำงานของเรา มีโอกาสมาพูดคุยกับผู้คนในตลาดรังสิต และถือโอกาสนี้ลองเดินและจับเวลาตรงเวิ้งที่เราเรียกกันว่า “ท่ารถรังสิต”
ข่าวน่าสนใจ:
- ตม.สระแก้ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังป้องกันชายแดน จับกุมชาวจีน 2 ราย หลบหนีเข้าเมือง
- จ.สุโขทัย 40 สาวงามขึ้นเวทีประชันโฉม ชิงตำแหน่งนางนพมาศ ในงาน "ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ" ประจำปี 2567
- สุดยิ่งใหญ่ชาวชัยภูมิทำพิธีประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่สุดรอบ 198 ปีตั้งแต่ตั้งเมืองชัยภูมิมา!
- ตรัง จี้ซ่อมด่วนก่อนปิดท่าเรือปากเมงทรุด กระเบื้องร่วง-โป๊ะพัง-รังแตนอาละวาด หวั่นนักท่องเที่ยวอันตรายถึงชีวิต
ผมเข้ากรุงเทพฯ ราวปี 2544 ที่พักแรกคือบ้านของญาติย่านสะพานใหม่ จำได้ว่าลงรถที่รังสิตนี่แหละ แล้วก็นึกห้าวลองเดินเท้าไปสะพานใหม่ ปรากฏไปถึงแค่บริเวณหน้าโรงพยาบาลธัญญารักษ์ก็ถอดใจ คือสภาพมันไม่น่าเดิน เช่น ฟุตบาตบางครั้งก็หายไปดื้อๆ ต้องลงมาเดินบนผิวถนนแข่งกับรถ สุดท้ายตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด โบกแท็กซี่กลับบ้าน ความซ่าในตัวดับไปเยอะพอสมควร
20 ปีผ่านไป คราวนี้ผมกลับมาในฐานะของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ปทุมธานี เขต 4 ซึ่งบริเวณท่ารถรังสิตก็อยู่ในเขตเลือกตั้งนี้ โดยได้ยินเสียงบ่นบ่อยครั้งเรื่องความวุ่นวาย ความไม่เป็นระเบียบ หรือแม้แต่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง ถนน ฟุตบาต สะพานลอย ที่ไม่เป็นมิตรกับทุกคนในจุดนี้ ซึ่งถ้าใครเคยมาเยือนจะรู้ดีว่า ต้องขึ้นๆ ลงๆ ข้ามๆ ไปมา ไปมา สารพัด แบบชนิดทำเอาปวดข้อเข่า กว่าจะเดินไปถึงจุดหมาย แบบชนิดที่คงมีแต่นักวิ่งเทรลเท่านั้นแหละที่ชอบ
“ที่นี้ลองคิดถึงผู้พิการ กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว ก็น่าจมีแค่ แมตต์ เมอร์ด็อก ในภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Daredevil เท่านั้นแหละถึงจะข้ามไปได้” เชตะวัน กล่าว
ท่ามแดดเปรี้ยงของเวลาใกล้เที่ยง เชตะวันจึงเดินและลองจับเวลาดูว่า 1 รอบในเวิ้งที่เรียกว่าท่ารถรังสิต จะใช้เวลาเท่าไหร่ เริ่มออกสตาร์ตจากบริเวณฝั่งตลาดรังสิต (จุดสีน้ำเงินในแผนที่) ซึ่งคนผ่านไปผ่านมามักไม่รู้ว่ามีตลาดเก่าอยู่ฝั่งนี้ ยิ่งผู้ที่มาจากที่อื่นๆ เชื่อว่า 80 เปอร์เซ็นต์ก็คงรู้จักแต่ฝั่งห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ฯลฯ ทั้งๆ ที่ในตลาดรังสิตมีอาหารอร่อย มีสินค้าดีๆ มีร้านค้าดั้งเดิมที่น่าสนใจเยอะแยะมากมาย
แน่นอนว่าถนนพหลโยธินที่กว้างขวางใหญ่โตตรงบริเวณนี้เป็นอุปสรรค แต่ทว่าทางเท้า สะพานลอย ที่ทำให้คนต้องขึ้นๆ ลงๆ ข้ามๆ อย่างที่ผมว่าก็เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ตลาดรังสิตไม่เป็นที่เชิญชวนให้คนมาเยือน
ตรงนี้เองที่ทำให้เพื่อนๆ น้องๆ อาสาสมัครคณะทำงานของเรา รวมถึงคุณมนต์ชัยผู้มีรกรากอยู่ในตลาดรังสิต ชักชวนกันพูดคุยถึงความเป็นไปได้ของสกายวอร์ค อย่างที่กรุงเทพมหานครมีบริเวณแยกปทุมวัน ที่สามารถเดิมเชื่อมถึงกันได้อย่างง่ายดาย ขณะที่บางคนก็เสนอเรื่องทางลอดใต้ดิน แบบในญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งก็น่าสนใจไม่น้อย และก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งแหล่งเศรษฐกิจให้คนรังสิตได้ด้วยเช่นกัน
เราเดิน ขึ้นๆ ลงๆ ข้ามๆ (ตามเส้นทางจุดประสีแดงในรูป) ผ่านพ่อค้าแม่ค้าแผงลอย รถเข็ญ ท่ารถตู้ คนขอทาน คนเล่นดนตรีเปิดหมวก ห้างสรรพสินค้าหรู วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่จอดแช่ ป้ายรถเมล์ ฯลฯ ในที่สุดก็กลับมาจุดเดิม โดยใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง
นี่คือการทดลองเดินของพวกเราที่มาเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่สำหรับคนที่ต้องมาต่อรถที่นี่ ใช้เส้นทางนี้อยู่เป็นประจำ ความลำบากในชีวิตจะอยู่ในระดับไหน พวกเขาต้องเผื่อเวลาในการเดินทางนานเท่าไหร่ หรือในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งต้องขึ้นๆ ลงๆ ข้ามๆ และอาจต้องวิ่งเพราะกลัวไม่ทันเข้างานอาจทำให้หกล้มหัวร้างข้างแตกได้ง่ายๆ เลย
“เวิ้งท่ารถรังสิตดีกว่านี้ได้ ผมเชื่ออย่างนี้ ในอนาคตผมคิดว่าคงต้องเริ่มต้นรับฟังเสียงของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แล้วหาทางลบภาพ 20 ปีที่แล้วให้จงได้ ขอบคุณครับ” เชตะวัน กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: