‘อลงกรณ์’ ควง “ดร.สุชัชวีร์-ส.ส.ประชาธิปัตย์” ลงสนามหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จังหวัดสงขลา เน้นนโยบายปั้นสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางระเบียง ศก.ชายแดนใต้ เชื่อมมาเลเซีย อ้อนประชาชนเลือก ‘สุภาพร’ เพื่อให้ได้เป็น ส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัด
โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จังหวัดสงขลา ยังเป็นไปอย่างเข้มข้น วันที่ 7 มกราคม 2564 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์, ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง, พล.ต.ต สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา และ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส. อุบลราชธานี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต ส.ส.สงขลา ได้ลงหาเสียงช่วย นางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 สงขลา ของพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 1
โดยบรรยากาศเวทีปราศรัยที่วัดเทพชุมนุมในเขตเทศบาลเมืองบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วงเย็น ได้รับความสนใจจากประชาชนจนเก้าอี้ที่ทีมงานหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เตรียมไว้ 5,000 ตัว ไม่พอต้องยืนล้นออกมานอกถนน และมีเสียงเชียร์สนับสนุนเป็นระยะ ๆ
โดยนายอลงกรณ์ ได้ปราศรัยเปิดเวทีชี้แจงถึงนโยบายและวิสัยทัศน์ใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ในการพัฒนา จ.สงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าธุรกิจของ “ลิมอดาซาร์” ระเบียงเศรษฐกิจชายแดนใต้ เชื่อมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมการลงทุนและโลจิสติกส์ ระหว่าง 5 รัฐทางภาคเหนือของประเทศมาเลเซีย (กลันตัน เคดาห์ เปรัค ปะลิส และปีนัง) กับ 5 จังหวัดชายแดนใต้ (กลุ่มจังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส และยะลา) การยกระดับสนามบินหาดใหญ่เป็นฮับการบินนานาชาติ รวมทั้งการพัฒนาสะเดา-ปาดังเบซาร์ เป็นเมืองท่าหน้าด่านแบบสมาร์ทซิตี้ที่ทันสมัยรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดน รวมทั้งการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นฐานการแปรรูปสินค้าเกษตรมาตรฐานฮาลาล ซึ่งมีมูลค่าตลาดโลก 48 ล้านล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายกว่า 2 พันล้านคน จะสามารถสร้างงานสร้างอาชีพและขยายการค้าใหม่ ๆ ได้อีกมาก
ทั้งนี้ทางพรรคระบุว่า ประชาธิปัตย์ยุคใหม่จะร่วมสร้างจุดเปลี่ยนสงขลาและภาคใต้สู่อนาคตที่ดีกว่า เป็นอนาคตที่เราออกแบบได้สร้างได้ด้วยแนวทางถอดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่ จะคิดจะทำแบบเดิมไม่ได้
โดย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยต่อว่า ประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์ทันสมัย สามารถขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้พืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด ได้แก่ ยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วและช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 15,000 บาท ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยไว สร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศกว่า 8.8 ล้านล้านบาท จากการส่งออกที่เติบโต 16% เกินเป้าหมายที่รัฐบาลเคยกำหนดไว้ที่ 4% ถึง 4 เท่าตัว ทำสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี และยังผลักดันการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนซึ่งมีความสำคัญต่อ จ.สงขลาโดยข้อมูล 9 เดือน (มกราคม – กันยายน 2564) สามารถส่งออกได้ถึง 778,367 ล้านบาท ขยายตัว 38.06% แม้จะเผชิญกับวิกกฤติการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกก็ตาม
นายอลงกรณ์ ยังขอโอกาสกับคนใต้และชาวสงขลาที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด โดยยืนยันว่าประชาธิปัตย์ยุคนี้ กำลังพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ก้าวหน้าทันสมัย และเปิดพรรคกว้างสร้างคนใหม่ที่มีอุดมการณ์เข้ามารับใช้ประเทศชาติ นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังได้ขอโอกาสจากชาวสงขลา เขต 6 เลือกนางสาวสุภาพร กำเนิดผล เพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์ของสงขลาที่จะมี ส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัด โดยนายอลงกรณ์ ระบุว่านางสาวสุภาพร เป็นผู้หญิงเก่งและแกร่งที่พรรคคัดเลือกให้ลงสมัครครั้งนี้ ตามนโยบายการสนับสนุนส่งเสริมบทบาทสตรีในทางการเมือง ซึ่งนางสาวสุภาพร เป็นอดีตรองนายก อบจ.สงขลา เป็นคนรุ่นใหม่ ใกล้ชิดประชาชน รู้ปัญหาพื้นที่ ทำงานไว พูดดี ใช้โซเชียลมีเดียสื่อสารการขับเคลื่อนนโยบายและวิสัยทัศน์การพัฒนาสงขลา 6 ด้านอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
