‘ธนาธร’ ปธ.คณะก้าวหน้า แจงเรื่องรับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรก โดยไปฉีดตอนหัวค่ำเพราะเป็นวัคซีนเหลือของวัน ยืนยันไม่ได้แย่งคนแก่ฉีด เตรียมฟ้องรัฐและกลุ่มคนใส่ร้าย เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ใช้สร้างความเกลียดชัง
วันนี้ (11 มกราคม 2565) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวในหัวข้อ “กรณีการรับวัคซีนของผม และการที่รัฐล้วงข้อมูลของประชาชนมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง” โดยเนื้อหาบางส่วนระบุว่า ตนพยายามอดทนอดกลั้นมาตลอดกับความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสี ทำลายความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของตน โดยคนกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนเครือข่ายเผด็จการอนุรักษ์นิยม คนกลุ่มนี้ปลุกปั้น แต่งเรื่องไม่จริง พูดซ้ำ ๆ ทุกวัน เพื่อให้ชื่อเสียงผมเสียหาย เพื่อให้ประชาชนเกลียดชังผม ถึงวันนี้มีคนจำนวนหนึ่งเข้าใจผมผิดเพราะการกระทำของคนกลุ่มนี้
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ครั้งนี้พวกเขากล่าวหาว่าผมแย่งวัคซีนคนแก่ กล่าวหาว่าผมด้อยค่าวัคซีนแต่กลับไปฉีดเสียเอง นำหลักฐานผิดฝาผิดตัว มาผูกเรื่องราวให้ประชาชนเข้าใจว่าผมใช้อำนาจบาตรใหญ่แซงคิวประชาชน พวกเขาร่วมมือกับรัฐบาลเผด็จการ นำข้อมูลส่วนบุคคลของผม ออกมาเปิดเผยในที่สาธารณะเพื่อสร้างเรื่องหลอกลวง
“แน่นอน เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ผมตระหนักดีถึงสถานะของตนเอง พยายามครองตนให้เหมาะสม และระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอไม่ให้มีการใช้ความเป็นบุคคลสาธารณะของตนเองเพื่อได้มาซึ่งสิทธิพิเศษ” นายธนาธร กล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
จากนั้น นายธนาธร แนบลิงก์ข้อมูล พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า
- หากไม่เสพข่าวจากคนกลุ่มนี้เพียงด้านเดียว หาข้อมูลสาธารณะเพียงเล็กน้อย ย่อมจะเห็นว่าข้อกล่าวหาของคนกลุ่มนี้ไม่เป็นความจริง มีการเปิดให้คนทั่วไปฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนแล้ว (ดูข่าวแนบได้ที่นี่ https://www.thansettakij.com/general-news/482859)
- คนจำนวนมากที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยมีโรคประจำตัว รวมทั้งคนหนุ่มสาวในวัยทำงาน ได้ฉีดวัคซีน AstraZeneca แล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพ สมุทรปราการ และจังหวัดสีแดง คนที่ได้ฉีดวัคซีน AstraZeneca ในเดือนกรกฎาคมไม่ได้แย่งคนแก่ฉีดแน่ ๆ (ดูสถิติการฉัดวัคซีนเมื่อวันที่ 1 ก.ค. https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/10/1625222017817.pdf) ที่ผมฉีดที่สมุทรปราการเพราะใกล้บ้าน บ้านผมอยู่รอยต่อระหว่างกรุงเทพและสมุทรปราการ ข้ามถนนหน้าบ้านก็ข้ามจังหวัดแล้ว คนเดินทางข้ามเขตจังหวัดตลอดเวลาเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน ไม่มีข้อกฎหมายห้ามไม่ให้คนฉีดนอกจังหวัดที่ตนเองมีทะเบียนบ้านอยู่
- ที่ผมไปฉีดตอนหัวค่ำเพราะเป็นวัคซีนเหลือของวัน ซึ่งทางโรงพยาบาลต้องโทรหาคนที่แจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนไว้ ให้ไปฉีด เพื่อไม่ต้องทิ้งวัคซีนที่มีค่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งผมไม่รู้จัก และไม่เคยคุยกันมาก่อน ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Top News เองว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามปกติ (อ่านคำให้สัมภาษณ์ของผู้อำนวยการที่นี่ https://www.topnews.co.th/news/205344)
- ผมวิพากษ์การจัดหาวัคซีนของรัฐบาลที่ผิดพลาดโดยเฉพาะการแทงม้าตัวเดียว ผมไม่เคยเชิญชวนให้คนไม่ฉีดวัคซีน กลับกัน ผมยังชวนให้คนไปฉีดวัคซีน เพื่อปกป้องตัวเองและส่วนรวม (ดูข่าวการเชิญชวนให้ประชาชนฉีดวัคซีนของผมได้ ที่นี่ https://www.khaosod.co.th/politics/news_6391684 และที่นี่ https://www.posttoday.com/politic/news/652713)
นายธนาธร ระบุว่า ตนพยายามอดทนอดกลั้นกับการกระทำของคนกลุ่มนี้ ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ถึงแม้จะถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ก็ตั้งใจว่าจะทำในสิ่งที่ผมพอจะทำได้ คือการทำงานการเมืองท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า, การรณรงค์ประเด็นสาธารณะที่สำคัญ และการทำงานความคิดประชาธิปไตยกับคนทุกกลุ่ม เพื่อสร้างสังคมที่ตนและเพื่อนหวังจะเห็น
“แต่การกระทำที่น่ารังเกียจของคนกลุ่มนี้ และการร่วมสนับสนุนโดยไอโอของรัฐบาล กองทัพและบางพรรคการเมือง ที่รังแต่จะสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน ไม่ได้ทำร้ายผมคนเดียว ไม่ใช่ผมคนเดียวที่โดนทำลายจากคนกลุ่มนี้ ยังมีนักประชาธิปไตยและนักสิทธิมนุษยชนอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกคนกลุ่มนี้ทำลายชื่อเสียง ดังนั้นผมจึงขอใช้สิทธิดำเนินการฟ้องคดีตามกฎหมายต่อคนกลุ่มนี้ และต่อองค์กรรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องไม่ให้รัฐนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองถืออยู่ในมือมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน รวมถึงทำลายผู้ที่เห็นต่างกับรัฐอีกต่อไป” นายธนาธร กล่าว
ขณะเดียวกัน นายธนาธร ได้กล่าวขอบคุณสำหรับกำลังใจจากมิตรสหายและผู้สนับสนุนที่มอบให้ตนในสองสามวันมานี้ สิ่งต่าง ๆ นี้ ทำให้มีพลังในการทำงานต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: