พรรคก้าวไกล ขอโอกาสชาวหลักสี่-จตุจักร เลือก “เพชร-กรุณพล” เข้าสภา เพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรม ‘พิธา’ ชี้เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ชี้ทิศทางประเทศ “ธนาธร-พรรณิการ์” ร่วมฟังปราศรัยด้วย
วันนี้ (22 มกราคม 2565) ที่ ลานกีฬาชุมชนเสนานิคม 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกลจัดปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ (เพชร) ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร (ยกเว้นแขวงจตุจักร-แขวงจอมพล) พรรคก้าวไกล ซึ่งการจัดปราศรัยอยู่ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมฟังจำนวนมาก
นายกรุณพล ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคก้าวไกล ระบุว่า มีความมั่นใจ เนื่องจากตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาได้เดินทางไปพบปะพูดคุยทุกตรอก ซอก ซอย รับรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชนที่และพร้อมจะนำไปผลักดันในสภาผู้แทนราษฎร โดยในเวทีปราศรัยใหญ่วันนี้ พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบถึงมุมมองและวิสัยทัศน์ของตนมากขึ้น พร้อมนโยบายที่สำคัญของพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นหัวใจที่จะนำพาอนาคตของประเทศไทยไปข้างหน้าได้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราจะพัฒนาบ้านราคาประหยัดให้พ่อแม่พี่น้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่การจ้างงานจะต้องเกิดขึ้น งบประมาณเหล่านี้เอามาจากงบกองทัพ มาสร้างงานให้พี่น้องประชาชนได้ กองทัพต้องได้รับการปฏิรูป ถือเป็นความฝันของตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมชี้ว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อาจเป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะเป็นทิศทางว่าประเทศจะเป็นอย่างไร จะเดินไปสู่อนาคตหรือวนเวียนกับอดีต
“เราเดินมาไกลกันแล้ว มาไกลเพราะพี่น้องทุกคน การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้เพราะทุกท่านร่วมมือกับ ส.ส. ของท่านในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ไม่มีอะไรที่จะมีพลังเท่ากับการรวมตัวของสามัญชนคนธรรมดาอย่างที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ และพวกเรา ส.ส.เราทุกคนจะยังหยุดไม่ได้ สัปดาห์หน้าเราจะเดินเคาะประตูทุกบ้าน รับฟังทุกปัญหา และพาเพชร กรุณพล เข้าสภา วันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ จตุจักร-หลักสี่จะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันเหมือนเดิม เปลี่ยนประเทศไทย และเปลี่ยนโลกนี้ไปด้วยกันครับ” นายพิธา กล่าว
“ในฐานะนักเเสดงที่อยู่ในวงการมา 20 ปี เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจำหน้าผมได้อย่างเชื่อใจ นี่คือความใกล้ชิดที่ผมพร้อมใช้จุดแข็งนี้ส่งเสียงของพวกเราให้ดังขึ้นในสังคม ไม่ว่าในหรือนอกสภา ในทางการมือง ผมอาจเป็นหน้าใหม่แต่ในอีกด้านหนึ่งก็คือเราไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีเรื่อง อุปถัมป์ต่างตอบแทนกับใคร เราจึงมาเพราะไม่พอใจกับสภาพปัญหาที่เป็นอยู่จริงๆ ผมขออาสาเป็นตัวแทนเพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน เพราะผมเห็นว่า การพูดอย่างเดียวในฐานะนักเเสดง ไม่สามารถแก้ไขไปสู่สิ่งที่เราอยากเห็นจริงๆได้ จึงตัดสินใจลงมือทำด้วยความตั้งใจจริง ความตั้งใจเข้ามาเป็นผู้แทนในนามพรรคก้าวไกลของผมคือ การพร้อมชนทุกปัญหา และยืนเคียงข้างไปกับประชาชน” นายกรุณพล กล่าว
กรุณพล กล่าวทิ้งท้ายว่า หากได้รับการเลือกตั้ง สิ่งเเรกที่จะทำคือเรื่องวัคซีน เนื่องจากขณะนี้มีการระบาดของไวรัสโอมิครอน ซึ่งจากการเดินทางไปพื้นที่ชุมชนแออัดหลายแห่งพบว่ามีผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงจำนวนมาก เป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง ต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำทะเบียนผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ เพื่ออำนวยความสะดวกเเละส่งยารักษาโรคให้ได้อย่างทันท่วงที ลดภาระในการเดินทางไปยังสถานพยาบาล เพราะหลายคนที่เคลื่อนย้ายลำบาก เเละมีค่าใช้จ่ายสูง
ส่วน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า ก่อนหน้านี้ เพชร กรุณพล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ที่อยู่ระหว่างการสรรหา ซึ่งระหว่างนั้นเขาได้ถูกทาบทามไปอยู่พรรคอื่น มีข้อเสนอมากมาย ทั้งงบประมาณ ตำแหน่งทางการเมืองให้ แต่เพชร กรุณพล ตอบปฏิเสธอย่างมั่นใจ แล้วยืนหยัดจะเดินตามวิถีทางการเมืองพรรคก้าวไกล เราต้องการผู้แทนราษฎรที่มีกระดูกสันหลัง ต้องการผู้แทนที่ยืนยันมาแล้วว่าจะไม่มีวันทรยศกับประชาชน
“เพชร กรุณพล จะเป็นคนเข้าไปตรวจสอบรัฐบาลประยุทธ์เพื่อตอกฝาโลงรัฐบาลนี้ ตรวจสอบงบประมาณก้อนสุดท้ายเพื่อไม่ให้เขาเอาไปใช้อย่างมูมมาม และจะเป็นผู้อภิปรายคว่ำรัฐบาลประยุทธ์คาสภาให้ได้ ดังนั้น ถ้าท่านเห็นว่าการทำงานในสภาที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนอย่างถึงที่สุด ไม่ยอมเกี้ยเซียะเพื่อประโยชน์ตนเองเป็นฉากหลัง” ชัยธวัช กล่าว
ด้าน นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า หน้าที่ของพรรคก้าวไกล คือ เฟ้นหาคนที่ใช่ที่สุด เหมาะสมที่สุด มีจุดยืนตรงกับพรรคมากที่สุด รวมทั้งผ่านการทำงานร่วมกับพรรคมาแล้ว มั่นใจว่าเมื่อเป็น ส.ส.จะทำงานตอบสนองพี่น้องทั้งงานในพื้นที่และงานในสภาได้ ซึ่งนายกรุณพล เข้ามาร่วมทำกิจกรรมตั้งแต่ครั้งยังเป็นพรรคอนาคตใหม่แล้ว แสดงจุดยืนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยชัดเจนผ่านการสื่อสารช่องทางต่าง ๆ มานาน และเขาก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าของพี่น้องชาวจตุจักร-หลักสี่ เพราะมีกิจการร้านอาหารของครอบครัวอยู่ในพื้นที่ และเพชร กรุณพล ก็เรียนจบจาก ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่นี้นี่เอง
“แม่ของเพชร กรุณพล คือ จิตประภัสสร เทียนสุวรรณ นางสาวไทยปี 2509 หรือชื่อเล่นว่าพี่แดง เป็นคนที่ดิฉันรู้จักและเคารพนับถือในการเป็นนักสู้ พี่แดงเป็นนักสู้ตัวแม่ เป็นที่รู้จักของเหล่าบรรดาผู้รักประชาธิปไตยและรังเกียจเผด็จการอย่างกว้างขวาง ในทางส่วนตัว ดิฉันภูมิใจในความเป็นนักสู้ของพี่แดง ให้ความเคารพนับถือ และพี่แดงก็ให้ความรัก ให้กำลังใจดิฉันตลอดมา ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะเพชร กรุณพล ก็เป็นนักสู้เหมือนแม่แดง จิตประภัสสร” นางอมรัตน์ กล่าว
โดยในการปราศรัย ยังมีแกนนำคนสำคัญขึ้นปราศรัยอีก เช่น นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม. เขตบางขุนเทียน, นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กทม. เขตบางแค รวมถึงมี ส.ส. และสมาชิกพรรค มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางมาร่วมฟังปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล พร้อมให้กำลังใจ นายกรุณพล อีกด้วย
โดย นายธนาธร ระบุว่า ในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม นี้ จะเป็นวันสำคัญที่ประชาชนจะมีโอกาสได้ตัดสินใจว่าต้องการผู้แทนแบบไหน พรรคการเมืองใดในสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่มีพรรคอนาคตใหม่จนมาถึงพรรคก้าวไกล เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเราเป็นพรรคที่กล้าชนกับอำนาจอยุติธรรม กล้าตรวจสอบอำนาจที่ไม่ถูกต้อง โดยยึดหลักผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งพี่น้องประชาชนจะเป็นคนเลือกเองว่า ประเทศไทยควรจะมีพรรคเเบบนี้หรือไม่ สภาผู้แทนราษฎรยังคงมีความจำเป็นที่จะที่มีพรรคแบบนี้หรือไม่ ในวันอาทิตย์นี้ พี่น้องประชาชนจะเป็นคนกำหนดและเลือกเอง
“ผมต้องการพูดกับพี่น้องประชาชนว่า เราไม่อำนาจ เราไม่มีรถถัง เราไม่มีปืน เราไม่มีอาวุธ เรามีอย่างเดียวที่จะปกป้องพี่น้องประชาชนได้ คือ เสียงของประชาชน ผมจึงอยากฝากให้พี่น้องประชาชนสนับสนุน เพชร กรุณพล เป็นตัวแทนเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ที่มีความสำคัญมาก” นายธนาธร กล่าว
