We Watch ชวนจับตาการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2565 โดยสามารถรายงานได้ทาง www.electionwatchth.org
วันที่ 29 มกราคม 2565 We Watch เครือข่ายประชาชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตยที่วางอยู่บนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชน ขอเชิญชวนจับตาการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2565 โดยสามารถจับตาหน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน แล้วรายงานได้ทาง https://www.electionwatchth.org/ โดยขั้นตอนการตรวจสอบ และส่งข้อมูลมีดังนี้
1. ติดตามการจัดการเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลาก่อนเปิดหน่วยเลือกตั้ง จนถึงการนับคะแนนและส่งคะแนนจาก หน่วยเลือกตั้ง
2. จดบันทึกข้อมูล เหตุการณ์หรือสถานการณ์ภาพรวม ในวันเลือกตั้ง
3. บันทึกภาพและวีดีโอเหตุการณ์หรือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเลือกตั้ง
4. ส่งข้อมูลที่ได้รวมทั้งภาพถ่ายเอกสาร สรุปผลคะแนนของหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ ในระหว่างวันเลือกตั้งและหลังจากเสร็จสิ้นวันเลือกตั้ง
เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยการแสกน QR Code ไปยังเว็บไซต์ https://www.electionwatchth.org/ เพื่อรายงานการเลือกตั้งดังกล่าว
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และอื่น ๆ ได้ทาง Facebook : We Watch, Twitter : @wewatch19, Call : 097-202-3742 และ Mail : [email protected]
“หมายเหตุ ข้อมูลรายชื่อผู้รายงานสังเกตการณ์ จะถูกเก็บเป็นความลับและบันทึกไว้ในเว็บไซต์ มีเพียงทีมงาน We Watch เท่านั้นที่มีสิทธิเข้าถึงรายละเอียด” We Watch กล่าว
จากนั้น We Watch ได้เผยแพร่ “แถลงการณ์ผลการสังเกตการณ์ก่อนวันเลือกตั้งซ่อมกรุงเทพมหานคร เขต 9” ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง หรือการเลือกตั้งซ่อมของกรุงเทพมหานคร เขต 9 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม นี้ เป็นการเลือกตั้งที่ต้องสังเกตการณ์กันยาวๆ เนื่องจาก มีประเด็นเกี่ยวข้องที่มากกว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่ สาเหตุที่ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมในเขตนี้ และการดำเนินคดีความต่อผู้กระทำผิดล้วนควรต้องถูกให้ความสำคัญและติดตามอย่างใกล้ชิด
เป็นที่ทราบกันดีว่า มติของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ให้สมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของนาย สิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และมาตรา 101 (6) สิ่งที่น่าสังเกตคือ การสิ้นสภาพ ส.ส. ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดรัฐธรรมนูญว่าด้วยบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนการสมัครรับเลือกตั้งของการเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นกระบวนการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องตรวจสอบและรับรองสถานะความเป็นผู้สมัครก่อนวันเลือกตั้ง เวลาผ่านไปมากกว่า 2 ปี 9 เดือน องค์กรที่ค้นพบการกระทำผิดและดำเนินการเรื่องนี้กลับมิใช่ กกต. หากแต่เป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกัน และปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร We Watch จึงมีคำถามว่า ความตั้งใจและประสิทธิภาพของ กกต. ในการตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติผู้สมัครก่อนวันเลือกตั้งเป็นเช่นไร และภายหลังการเลือกตั้ง กกต. มีการดำเนินการต่อเนื่องในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครฯ หรือไม่ อีกทั้ง ภายหลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ กกต. จะดำเนินการเช่นไร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติจากความเสียหายของการกระทำผิดครั้งนี้ ตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
สำหรับผลการสังเกตการณ์ก่อนวันเลือกตั้งในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ We Watch พบว่า การมีผู้สมัครจาก 8 พรรค และมีผู้สมัครจากพรรคที่มีบทบาทสำคัญทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองและผู้สมัครให้ความสำคัญต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมกันนี้ We Watch ตั้งข้อสังเกตว่าภายใต้สถานการณ์การแข่งขันที่สูงเช่นนี้ กกต. จะดำเนินการตรวจสอบการกระทำผิดและเรื่องร้องเรียนที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแข็งขันและเที่ยงธรรมอย่างไร
วันเลือกตั้งซ่อม วันที่ 30 มกราคม นี้ อาจมีความผิดปกติ และการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเกิดขึ้นในทุกกระบวนการตั้งแต่ก่อนเปิดหีบเลือกตั้งจนถึงการประกาศผลคะแนน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสังเกตการณ์อีกช่วง นอกจากช่วงต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว กกต. จะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเที่ยงธรรมเพียงใด ผู้สมัครและพรรคการเมืองจะแข่งขันตามกติกาหรือไม่ และพฤติกรรมการเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นเช่นไร ล้วนต้องการข้อมูลและหลักฐานจากผู้สังเกตการณ์ We Watch จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งในครั้งนี้
