‘ชัชชาติ’ ย้ำนโยบายคืออาวุธต่อสู้ปัญหา เชื่อมั่นความเป็นผู้นำและประสบการณ์ของตน จะสามารถผลักดัน 200+ นโยบายจนสำเร็จ เพื่อเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน
วันนี้ (6 เมษายน 2565) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 และ เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ (ดร.ยุ้ย) หัวหน้าทีมนโยบายเศรษฐกิจเพื่อนชัชชาติ ลงพื้นที่หาเสียงในเขตบางแค โดยวันนี้เริ่มต้นหาเสียงที่ตลาดบางแคและตลาดศิริเกษม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในระหว่างการหาเสียงนั้น มีผู้ค้าและประชาชนต้อนรับอย่างอบอุ่น
จากนั้น ชัชชาติ และ เกษรา เดินทางไปรับฟังปัญหาและความต้องการของชุมชนเขตบางแค รวม 11 ชุมชน ก่อนลงพื้นที่เสียงต่อในช่วงบ่ายที่ตลาดสนามหลวง 2 เขตทวีวัฒนา เพื่อแจกแผ่นพับแนะนำนโยบาย “กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” ซึ่ง ชัชชาติ ได้เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเปิดเว็บไซต์ www.chadchart.com ให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษารายละเอียดของนโยบายกว่า 200 นโยบาย ครอบคลุมปัญหาและความต้องการ 9 ด้าน ขณะนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อเนื่อง ซึ่งทุกข้อมูลที่ส่งมา มีประโยชน์มากต่อการพัฒนาและออกแบบนโยบาย
ชัชชาติ ระบุว่า จากนี้ไป เพื่อให้ได้นโยบายที่สอดคล้องกับความต้องการจริง จะมีการรับฟังความเห็นทางเว็บไซต์ ควบคู่ไปกับการลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากประชาชนโดยตรง และคาดว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีนโยบายน่าสนใจมานำเสนอเพิ่มเติมอีก จนกว่าจะถึงกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565
โดย ชัชชาติ กล่าวย้ำว่า นโยบายคืออาวุธในการต่อสู้ปัญหา เชื่อว่าประชาชนตัดสินใจเลือกผู้สมัครจากนโยบาย ไม่น้อยกว่าเชื่อมั่นในตัวบุคคล ชัชชาติ มั่นใจ ความเป็นผู้นำประกอบกับประสบการณ์บริหารองค์กรในอดีต จะสร้างความร่วมแรงร่วมใจให้ข้าราชการและพนักงานสังกัด กทม. ผลักดันนโยบายทั้งหมดให้ประสบความสำเร็จลุล่วง
“ตอนผมเป็นรัฐมนตรีคมนาคม มีเพื่อนร่วมงานกว่า 70,000 คน เราสามารถรวมใจและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประชาชน เห็นความสำคัญของการเชื่อมโยงและคุณค่าของเวลา คนตื่นเต้นกับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ตอนอยู่บริหารบริษัทเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ พนักงานลุยไปด้วยกันสร้างยอดขายรวม 4 ปีกว่า 1 แสนล้าน กำไรเกือบ 12,000 ล้าน ผมเชื่อว่าความเป็นผู้นำสำคัญ นโยบายดี เราทำงานจริง เราสามารถรวมใจคนและบริหารความขัดแย้งได้ นี่คือหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.” ชัชชาติ กล่าว
ชัชชาติ ระบุเพิ่มเติมอีกว่า การประกาศนโยบายกว่า 200 นโยบาย ทุกนโยบายจะมีการชี้แจงอย่างละเอียดชัดเจน ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงกับประชาชน เนื่องจากเป็นหลักฐานที่บังคับให้ตนเองต้องทำงานทันทีตั้งแต่วันแรกหากชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนติดตามตรวจสอบและประเมินผลการทำงานได้ตลอดเวลาอีกด้วย
