‘สุชัชวีร์’ ปชป. ดันชุมชนพิพัฒน์ 2 เขตบางรัก เป็นโมเดลต้นแบบของนโยบาย “เปลี่ยนกรุงเทพ” รองรับ Smart City ให้มีแสงสว่าง และใช้เทคโนโลยีสร้างความปลอดภัย
เมื่อวานนี้ (7 เมษายน 2565) ช่วงเย็น เวลา 18.30 น. โดยประมาณ ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 1 ได้ไปที่ชุมชนพิพัฒน์ 2 เขตบางรัก ร่วมกับผู้สมัคร ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีต ส.ส. กทม., ดร.ธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย และ ดร.ธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ ทีมรองผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งฯ ของพรรค เพื่อร่วมติดตามการติดตั้งกล้องวงจรปิดชุมชนพิพัฒน์ 2 พร้อมมั่นใจเทคโนโลยีจะส่งเสริมให้นโยบาย “เปลี่ยนกรุงเทพ” ประสบความสำเร็จได้
ศ.สุชัชวีร์ กล่าวว่าตนเองได้พบกับคุณเล็ก ประธานชุมชน หลังจากเปิดตัวและลงพื้นที่ครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งวันนั้นได้พบปัญหาในชุมชนเป็นจำนวนมาก เช่น เรื่องแสงสว่าง และความปลอดภัยของคนในชุมชน จึงทราบว่าได้ทางชุมชนได้ขอให้มีการขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องช่วยติดกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ตนเองได้มารับฟังปัญหาจากคุณเล็กปีที่แล้ว ซึ่งโชคดีที่คุณเล็กเป็นประธานชุมชนที่ต้องการอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ เราจึงช่วยดำเนินการให้ ซึ่งไม่เฉพาะแต่เรื่องของไฟฟ้า ความสว่างเพียงอย่างเดียว แต่ได้นำเสนอนโยบาย “เปลี่ยนกรุงเทพ” โดยคนกรุงเทพฯ ต้องได้ใช้อินเตอร์เน็ตฟรี ไวไฟ (Wifi) 150,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากประชาชนจะได้ประโยชน์ ลดค่าใช้จ่ายที่จะต้องไปเสียค่าอินเตอร์เน็ต เอื้อประโยชน์แก่ผู้ที่ทำงาน Work Form Home หรือค้าขายออนไลน์ รวมไปถึงช่วยงานฉุกเฉินเรื่องผู้สูงอายุได้อีกด้วย
นอกจากประชาชนจะได้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตฟรี ไวไฟฟรีแล้ว แม้แต่ กทม.ก็ได้ประโยชน์ไปด้วย เช่น เรื่องระบบกล้องวงจรปิด ปัจจุบันมี 60,000-70,000 ตัว ไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ แต่วันนี้ชุมชนพิพัฒน์ 2 ทำให้เห็นแล้วว่า “เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้” โดยมีกล้องไวไฟ ดูได้ 24 ชั่วโมง ชาวบ้านเข้าถึงได้ ภาพคมชัด
ทั้งนี้ ชุมชนพิพัฒน์ 2 เป็นชุมชนใจกลางเมือง คนในชุมชนส่วนใหญ่ก็เป็นพนักงานออฟฟิศ และพ่อค้าแม่ค้าที่ทำงานแถวสีลม บางรัก ชุมชนที่มีปัญหาเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของคนในชุมชน มาวันนี้สามารถเปลี่ยนชุมชนให้มีแสงสว่าง เปลี่ยนชุมชนให้มีความปลอดภัยได้แล้ว ชาวบ้านในชุมชนต่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ขณะที่ประธานชุมชน ก็ได้กล่าวขอบคุณ ศ.สุชัชวีร์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านพยายามขอเรื่องกล้องวงจรปิดแต่ก็ยังไม่ได้ จน ศ.สุชัชวีร์ เข้ามารับฟังปัญหาและช่วยจนชุมชนสามารถมีกล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพสูง ซึ่งในชุมชนมีทั้งหมด 11 ตัว ทั้งชุมชน กระจายไปทุกจุดทางเข้าออก เมื่อมีอะไรในชุมชนเราสามารถเห็นได้ทั้งหมด ทุกคนในชุมชนสามารถเป็นหูเป็นตาได้ทั้งหมด มี 100 คนก็ดูได้ทั้ง 100 เครื่อง
โดย ศ.สุชัชวีร์ กล่าวย้ำว่า กทม.จะเปลี่ยนได้ต้องใช้เทคโนโลยี ในอนาคตทุกชุมชนจะต้องมีลักษณะแบบนี้ ถ้ากรุงเทพมหานครให้ใช้ไวไฟ (wifi) ฟรี และกทม.เองก็สามารถใช้ในเรื่องดูแลความปลอดภัยด้วย เทคโนโลยีจะมีการพัฒนาไปอีกมาก สั่งเปิดปิดไฟ รวมไปถึงสามารถพิจารณาบุคคลต้องสงสัยได้
จากนั้น ศ.สุชัชวีร์ ยังได้เดินทักทายประชาชนในชุมชน พบว่าทุกพื้นที่มีแสงสว่างมาก ทำให้ชาวบ้านรู้สึกปลอดภัย ตอนนี้คนในชุมชนรู้สึกปลอดภัย และในอนาคตไวไฟฟรี เด็กในชุมชนก็จะเข้าถึงการศึกษาออนไลน์ได้ นี่คือความสุขคนกรุงเทพ อยากให้ กทม.เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับลูกหลานเรา ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างเท่านั้น ในนโยบายเปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้จริงๆ เปลี่ยนกรุงเทพมาเป็นเมืองรองรับ Smart City และนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตคนเมือง
