‘ศิธา’ พรรคไทยสร้างไทย ควง ผู้สมัคร ส.ก. ลุยขอคะแนนประชาชนในเขตบางนา เสนอเพิ่มโซนค้าขาย 24 ชั่วโมง ใครอยากขายของต้องได้ขาย ชูกองทุนคนตัวเล็กช่วยผู้ค้า “ตั้งตัว-ปลดหนี้นอกระบบ” พลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ชาว กทม.
วันที่ 18 เมษายน 2565 น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย, นายดลสุข รุ่งเรือง ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 5 พรรคไทยสร้างไทย พร้อม พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ และนายปณิธาน ประจวบเหมาะ และทีมงาน ลงพื้นที่เขตบางนา โดยขึ้นรถแห่วนผ่านหลายเส้นทาง ผ่านชุมชน ผ่านย่านการค้า และสถานที่สำคัญในหลายจุด เพื่อขอคะแนนจากพี่น้องชาวบางนา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากนั้นขบวนรถแห่ เคลื่อนมาที่ตลาดลาซาล 2000, ตลาดเย็นจิตร ซอยลาซาล 31 และตลาดดวงพลอย ได้เดินพบปะพ่อค้าแม่ขาย พี่น้องประชาชนที่ออกมาจ่ายตลาดในช่วงเย็น
ซึ่งผู้ค้าส่วนใหญ่ ระบุตรงกันว่า การค้าขายฝืดเคือง เนื่องจากราคาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นหลายประเภท จึงทำให้กำลังซื้อจากพี่น้องประชาชนลดลงตามไปด้วย กระทบยอดขาย และรายได้ที่ลดลง ผู้ประกอบการผู้ค้าผู้ขายจำนวนไม่น้อยจึงต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้สินที่มาจากการกู้ยืมเงินนอกระบบ
โดย น.ต.ศิธา ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย จะใช้แนวทางการดูแลคนตัวเล็กผ่านนโยบาย “กองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก” หรือกองทุนคนตัวเล็ก เพื่อให้พ่อค้าแม่ขายตั้งตัวได้ และปลดหนี้นอกระบบได้ โดยให้กู้ตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 50,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เครดิตของตัวเองเป็นการค้ำประกัน
น.ต.ศิธา ระบุต่อว่า จะช่วยพ่อค้าแม่ขายหาบเร่แผงลอย ให้กลับมาทำมาหากินได้อีกครั้ง โดยเฉพาะ การผลักดัน กทม. ให้เป็นเมืองหลวง Street Food โลก มีมาตรฐานความสะอาด พร้อมส่งเสริมให้มีพื้นที่ทำมาหากินสำหรับพ่อค้าแม่ค้าขายรายเล็กที่ไร้ที่ทางทำมาหากินจากนโยบายของรัฐ
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำถึง นโยบายให้การจัดโซนสำหรับค้าขายตลอด 24 ชั่วโมงให้คน กทม. และการเพิ่มพื้นที่ค้าขาย ทั้งการเช่าตึกหรือพื้นที่ที่ปิดตัวจำนวนมากที่อยู่ริมถนน พร้อมกับการทำสกายวอล์กเชื่อมเส้นทางสัญจรต่าง ๆ ให้คนเดินได้อย่างสะดวกสบาย และจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ค้าขายไปในตัว ขณะเดียวกันจะจัดพื้นที่ล้างจานและอบจานอัตโนมัติ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัยให้กับลูกค้า
