รองโฆษกประชาธิปัตย์ วอนผู้ไม่หวังดี หยุดทำลายป้ายหาเสียง หลังป้าย “วิน เมธวิน” ผู้สมัคร ส.ก. พญาไท ถูกกรีดทำลาย
วันที่ 20 เมษายน 2565 นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ปชป. ฝ่ายสื่อสาร กล่าวว่า วันนี้ (20 เมษายน 2565) นายเมธวิน อังคทะวานิช ผู้สมัคร ส.ก. เขตพญาไท หมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่ทำลายป้ายหาเสียงของตนเอง ซึ่งพบว่ามีป้ายหาเสียงในพื้นที่ถูกทำลายเสียหายจำนวนหลายป้าย ซึ่งป้ายหาเสียงดังกล่าวไม่ได้บดบัง หรือกีดขวางเส้นทางสัญจรของประชาชนแต่อย่างใด จึงอยากขอให้ผู้ที่ทำลายป้ายหยุดการกระทำดังกล่าว เพราะผิดกฎหมาย
นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวนายเมธวิน หรือ วิน เป็นอดีตนักธุรกิจถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่อาสามาทำงานการเมือง ไม่เคยมีความขัดแย้งกับบุคคลกลุ่มใด มีความตั้งใจจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ไม่เคยให้ร้ายผู้ใด ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่ลงพื้นที่จะได้รับกำลังใจและเสียงเชียร์ที่อยากเห็นคนรุ่นใหม่มาทำหน้าที่เป็นตัวแทน
จากการตรวจสอบโดยทีมงานพบว่าคนร้ายได้ใช้ของมีคมตัดทำลายเฉพาะบริเวณใบหน้า เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของพวกก่อกวนหรือมือที่สาม โดยป้ายหาเสียงรูปแบบทรงยาวของนายเมธวินนั้นเพิ่งนำไปติดตั้งทั่วเขตพญาไท เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากติดได้เพียงสองวันก็ถูกทำลาย ทั้งนี้ป้ายของนายเมธวินมีหลายขนาด โดยป้ายที่มีรูปทรงยาวจะเน้นติดริมถนนใหญ่ ส่วนขนาดเล็กจะติดตามถนนสายรองในซอยต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้กำชับทีมงานว่าให้ระมัดระวังในการติดไม่ให้กีดขวางเส้นทางสัญจรโดยเด็ดขาด
นางดรุณวรรณ ยังกล่าวต่อด้วยว่า ที่ผ่านมาพบว่าป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคประชาธิปัตย์หลายรายถูกทำลาย ซึ่งไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้บรรยากาศของการแข่งขันเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้สมัครใช้เวลาเต็มที่กับการเดินหน้านำเสนอนโยบายเพื่อให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ
“หยุดทำลายป้ายเถอะค่ะ ไม่ว่าจะด้วยเจตนาใดก็ตาม คนทำลายอาจรู้สึกสนุก สะใจ แต่เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง อยากบอกว่านอกจากไม่เท่แล้ว ยังผิดกฏหมายด้วย อยากให้เห็นใจผู้สมัครทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม เพราะจะทำให้ทั้งเสียเวลา เสียงบประมาณ เสียกำลังคนในการเข้าไปแก้ไขและติดตั้งใหม่ และที่สำคัญคือเสียกำลังใจ ทำให้คนรุ่นใหม่ คนตั้งใจดี รู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากเข้ามาในถนนการเมือง” นางดรุณวรรณ กล่าว
