ส.ส.บางขุนเทียน พรรคก้าวไกล เรียกร้อง รัฐบาล-ศธ. ออกมาตรการลดภาระผู้ปกครอง ก่อนเปิดเรียนวันที่ 17 พฤษภาคม นี้
วันนี้ (13 พฤษาภาคม 2565) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการมีประกาศให้มีการเปิดการเรียน การสอนแบบ On site ในวันที่17 พฤษภาคม 2565 พร้อมกันทุกแห่ง ว่า หลังจากที่มีการหยุดเรียนไปกว่า 2 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กๆจะได้กลับไปเรียนหนังสือในโรงเรียน แน่นอนว่า สิ่งที่ตามมาคือภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองไม่ว่าจะเป็น ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ถือว่าเป็นภาระที่หนักพอสมควรกับหลายครอบครัวที่เพิ่งเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 เท่าที่ตนมีโอกาสพูดคุยกับพี่น้องประชาชน บางครอบครัวตกงานตั้งแต่โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีงานทำ อาศัยรับจ้างรายวันเพื่อประทังชีวิตและดูแลครอบครัว ดังนั้น ภาระค่าใช้จ่ายที่ลูกหลานจะกลับไปเรียนหนังสือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขามากในการต้องรับผิดชอบ
“ผมพูดมาถึงตอนนี้ ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการเปิดเรียนตามปกติหลังจากที่เราดองพัฒนาการของเด็กๆมานานมาก แต่การเปิดเทอมครั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลจะต้องมีมาตรการช่วยเหลือลดภาระผู้ปกครองด้วย เป็นไปได้หรือไม่ ที่โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจะมีคูปองสำหรับชุดนักเรียนฟรี หรือโครงการชุดนักเรียนคนละครึ่ง คือซื้อชุดนักเรียนในราคาครึ่งหนึ่ง หรือยืดหยุ่นในกรณีที่ใครไม่มีชุดนักเรียนก็สามารถใส่ชุดไปรเวทมาเรียนได้ รวมถึงมาตรการอื่นๆเท่าที่จะช่วยเหลือได้มากที่สุด” นายณัฐชา กล่าว
จากนั้น นายณัฐชา ย้ำว่า การเปิดเรียนหลังจากปิดไป 2 ปี ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจหลังโควิดและสถานการณ์ความขัดแย้งของโลกที่นำไปสู่วิกฤตค่าครองชีพขณะนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับต้นๆ คือภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ตนเชื่อว่า เป็นเวลา 2 ปีแล้วที่เด็กๆและคุณครูต้องช่วยเหลือกันเองในการเรียนออนไลน์ ค่าอินเทอร์เน็ตไม่มีบ้าง อุปกรณ์ไม่มีบ้าง ค่าน้ำมันเครื่องที่ครูต้องขับไปเยี่ยมบ้านนักเรียนบาง ทุกคนก็ต้องรับภาระกันไปโดยภาครัฐไม่ได้ใส่ใจอย่างที่ควรเป็น ครั้งนี้เมื่อเปิดเรียนได้อีกครั้ง ตนคิดว่ารัฐบาลน่าจะมีเวลามากพอในการคิดมาตรการช่วยเหลือหรือปรับปรุง ที่ผ่านมาพวกท่านผลักภาระให้ผู้ปกครองและโรงเรียนมากพอแล้ว ในวันที่คิดจะปิดก็ปิด ในวันที่คิดจะเปิดก็ไม่อุ้มอะไรเลย หากไม่มีมาตรการใดจะเป็นการซ้ำเติมครอบครัวของเด็กๆที่ยากจนให้ไม่สามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้อีกซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับอนาคตของประเทศ และจะเป็นการตัดโอกาสของเด็กๆไปอีกจำนวนมหาศาล เพราะความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“หน้าที่ของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ คือการโอบอุ้มเด็กๆให้กลับเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนให้ได้มากที่สุด ต้องมีฐานข้อมูลของนักเรียนอยู่ในมือเพื่อสนับสนุนด้านต่างๆ เพื่อปูทางให้พวกเขากลับมาเริ่มต้นเรียนใหม่ได้อีกครั้ง สิ่งที่ผมยังอยากเห็นจากรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ คือการมอบโอกาสและมีส่วนร่วมไปกับอนาคตของเด็กไทยทุกคน มีความรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน มองเห็นความทุกข์ของพวกเขาและหาทางออก ไม่ใช่โยนภาระแบบตัวใครตัวมัน อย่าสักแต่นายสั่งว่าเปิดก็เปิดโดยไม่คำนึงถึงอะไรเลย ผมอยากเห็นการศึกษาคือโอกาสมากกว่าความเหลื่อมล้ำและกีดกันคนจน” ณัฐชา กล่าวทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: