กองสลากฯ เริ่มขายหวยดิจิทัล 80 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ตั้งแต่ 2 มิ.ย. 65 เวลา 06.00 น. คาดมีสลากขายในระบบดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 5 ล้านฉบับ
วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 นายลวรณ แสงสนิท ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล, นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการ พร้อมด้วย พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงความคืบหน้า-มาตรการในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา และความพร้อมของการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซื้อขายด้วยแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ และ ‘ถุงเงิน’
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดผยว่า ขณะนี้ การพัฒนาระบบการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ สลากดิจิทัล มีความพร้อมเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ซื้อสลากในราคา 80 บาทแล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 นี้ เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป โดยสำนักงานสลากฯ ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ได้จัดทำภาพเคลื่อนไหวอธิบายขั้นตอน และวิธีการซื้อขายให้ประชาชนเข้าใจ
สำหรับการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มของสำนักงานสลากฯ นี้ เป็นการนำสลากแบบเดิม ที่ยังคงมีการพิมพ์สลากออกมาก่อน มาสแกนแล้วนำเข้าแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย ตัวสลากยังเป็นสลากของตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล ซึ่งทำสัญญากับสำนักงานสลากฯ รวมถึงการออกรางวัลและการขึ้นเงินรางวัลยังคงเป็นแบบเดิมทุกประการ
โครงการนี้ จะทำให้ผู้ซื้อสามารถหาซื้อสลาก 80 บาทได้ และสลากเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อ ไม่สามารถเปลี่ยนมือ หรือถูกแอบอ้างได้ และยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ-รายได้ให้กับตัวแทนรายย่อยที่นำสลากมาขายในแพลตฟอร์มอีกด้วย
นายลวรณ เปิดเผยต่อไปว่า ในส่วนของผู้ขาย ก็มีช่องทางการจำหน่ายที่สะดวก มีอัตราการมองเห็นกว้างขวาง จำหน่ายได้มากขึ้นและในขณะนี้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ล่าสุดมีตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล จำนวน 10,258 ราย ในเบื้องต้นจะมีสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มการจำหน่ายสลากของสำนักงานฯ ไม่น้อยกว่า 5,279,500 ฉบับ
สำหรับโครงการสลาก 80 ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายสลากที่มุ่งหมายให้มีการกระจายไปทุกจังหวัด ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถหาซื้อสลากในราคา 80 บาท ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังและถุงเงินนั้น ขณะนี้เป็นที่รู้จัก และได้รับการตอบรับจากประชาชนผู้ซื้อดีขึ้นมาก ปัจจุบัน มีทั้งหมด 362 จุด ในกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่ภาคเหนือ และภาคใต้ เพิ่งทำสัญญาเสร็จเรียบร้อย คาดว่าจำหน่ายได้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในงวด 1 กรกฎาคม 2565 และในส่วนของโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้านั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนต่อไป
