‘สุทธวรรณ’ ก้าวไกล ตำหนิ ‘ศธ.- มหาดไทย’ ยึดติดเครื่องแบบชุดลูกเสือ ชี้ผลาญงบ-ไม่เห็นใจผู้ปกครอง คาใจ ไหนเคยบอกให้แต่งแบบอนุโลมได้
วันที่ 27 มิถุนายน 2565 นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม และรองโฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นหลังจากที่คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ มีปลัดกระทรวงศึกษาธิการและปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการโดยตำแหน่ง มีการประชุมและสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดหาชุดลูกเสือ-เนตรนารี ให้เด็กที่ผู้ปกครองขัดสนโดยอ้างเหตุผลว่าเป็นเครื่องแบบพระราชทาน
โดย นางสาวสุทธวรรณ กล่าวว่า การอ้างเหตุผลดังกล่าวเพื่อนำไปสู่สภาพบังคับในระบบการศึกษาไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะเราอยู่ในยุคสมัยที่แตกต่างกัน โรงเรียนในเวลานั้นส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนหลวง หรือต่อมาแม้มีการศึกษาภาคบังคับแล้ว แต่ยังเป็นสิ่งใหม่ของสังคมไทยและในความเป็นจริงก็ยังเข้าถึงในวงจำกัดจึงสามารถจัดการศึกษาที่ฟรีตามกำลังได้ แตกต่างจากปัจจุบัน ที่ถึงแม้จะมีนโยบายเรียนฟรี 15 ปี แต่ผู้ปกครองทุกคนล้วนรับรู้ดีว่ามันไม่เคยเป็นจริงและยังมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มรวมเบ็ดเสร็จแล้วยังมากกว่าที่ได้รับยกเว้นเป็นเท่าตัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวิกฤตโควิดและวิกฤตค่าครองชีพในปัจจุบันยิ่งทำให้เกิดภาวะยากจนเฉียบพลัน มีเด็กกำลังจะหลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวนมากซึ่งควรเป็นเรื่องเร่งด่วนในการแก้ปัญหา แต่ภาครัฐกลับยังยึดติดอยู่กับเครื่องแบบที่ต้องใช้งบจัดหาและเป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มให้ประชาชน
“หลักสูตรต่างๆควรปรับหรือเปลี่ยนให้สอดคล้องกับยุคสมัย คัดกรองในส่วนที่จำเป็นพื้นฐานให้เด็กๆได้เรียนรู้ เช่น การปฐมพยาบาล การรู้จักตัวเอง การเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนวิชาลูกเสือซึ่งเป็นการนำกฎระเบียบและวินัยต่างๆเข้ามารวมถึงต้องมีเครื่องแบบเฉพาะด้วยนั้น ไม่ควรเป็นวิชาบังคับ ถ้าใครอยากเรียนก็ควรอยู่ในรูปแบบของวิชาเลือกก็เพียงพอแล้ว” นางสาวสุทธวรรณ กล่าว
สุทธวรรณ ยังย้ำด้วยว่า กรณีดังกล่าว ขัดแย้งกับที่นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวไว้ตอนต้นเดือนมิถุนายน 2565 ว่าได้มีหนังสือไปยังโรงเรียนต่างๆ ตั้งแต่ปี 2564 ให้ยืดหยุ่น หรืออนุโลมให้นักเรียนที่ไม่มีความพร้อม ไม่ต้องแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารี เต็มรูปแบบ แค่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกได้ เช่น ผ้าพันคอ
“หากยืดหยุ่นจริงดังที่รัฐมนตรีกล่าว เหตุใดจึงต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดหาชุดลูกเสือ-เนตรนารีด้วย นี่เป็นการใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลืองและไม่เกิดประโยชน์ จริงอยู่ว่าการจัดหาชุดให้เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง แต่ด้วยสภาพการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน กระทบกันไปทุกหย่อมหญ้า จำนวนครอบครัวที่ไม่มีกำลังจ่ายค่าชุด ย่อมมีเป็นจำนวนมาก ตรงส่วนนี้จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินว่าใครควรได้รับชุด ใครไม่ควรได้รับชุด ทำไมต้องให้มาคัดกรองความจนกันอีก บางคนชีวิตลำบาก แต่อาจไม่ผ่านเกณฑ์ ก็เป็นภาระเช่นเดิม ทางออกที่ดีคือ ไม่ต้องแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารีเต็มรูปแบบไปเลยจะดีกว่า เพราะความสำคัญของวิชาลูกเสือ-เนตรนารี อยู่ที่เนื้อหาวิชา ไม่ได้อยู่ที่เครื่องแบบ
“ขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง และขอคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าตกลงยืดหยุ่นให้ใส่แค่ผ้าพันคอตามที่เคยพูดไว้จริงหรือไม่ ถ้าจริง ทำไมต้องมีให้ทุกจังหวัดจัดหาชุดให้นักเรียนที่ขาดแคลนอีก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นถึงเจ้ากระทรวงและเป็นหัวโต๊ะคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ควรมีความชัดเจนกว่านี้ ไม่ใช่ ศธ.พูดอย่าง มหาดไทยพูดอย่าง หรือเกียร์ว่างให้ผลาญงบกันเล่นๆ อย่าแกว่งไปแกว่งมา ควรคำนึงถึงหัวจิตหัวใจประชาชนที่กำลังลำบาก มากกว่าการยึดติดอยู่กับเครื่องแบบ” นางสาวสุทธวรรณ ระบุ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: