อนุสรณ์ พรรคเพื่อไทย แนะ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมรับมือฝ่ายค้านให้ดี ไม่อย่างนั้นมีโอกาสเสียทรงสูง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตอบคำถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ท้าเอาคนดีกว่ากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน ว่า น่าเสียดายที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถก้าวข้ามความเป็นตัวของตัวเอง แทบทุกครั้งของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีพัฒนาการ ละทิ้งโอกาสที่จะได้แสดงวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่สามารถควบคุมได้ แสดงภาวะผู้นำ แทนที่จะตอบคำถามว่าจะแก้ไขวิกฤตของประเทศชาติและประชาชนอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กลับตอบตามแบบที่อยากตอบ ตอบไม่ตรงคำถาม ที่หนักกว่าและถือว่าเกินความจำเป็นไปมาก คือพอจวนตัวนอกสคริปต์จนเสียทรงก็ไปพาดพิงอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แสดงว่าที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกจะทำงานเพื่อทุกคน ไม่เป็นศัตรูกับใคร ย้อนแย้ง คำพูดสวนทางกับการกระทำ หรือประชาชนเรียกร้องผิดให้ก้าวข้ามดร.ทักษิณ ก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งแสวงหาความปรองดองสมานฉันท์ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยทำได้ ทำเหมือนกับว่าดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นศูนย์กลางจักรวาลในใจของพล.อ.ประยุทธ์ตลอดเวลา
พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือที่พรรคร่วมฝ่ายค้านพุ่งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์คนเดียว 30 ชั่วโมงรวด คนดีชอบแก้ไข เวลาที่เหลืออยู่เอาไปตั้งสติ เตรียมตัวตอบคำถามของฝ่ายค้านดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะเสียทรงไปกว่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีกรอบแนวคิดที่ผิดคิดว่าการตั้งคณะกรรมการคือการแก้ปัญหา ทั้งที่ประชาชนต้องการเห็นผลสัมฤทธิ์ของการแก้ปัญหาไม่ได้ต้องการเห็นการตั้งสารพัดคณะกรรมการชุดต่างๆ ตั้งจนงง ไปตั้ง 10 รัฐมนตรีมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าครม.อยู่แล้ว จะไปตั้ง 10 รัฐมนตรีมาให้ซ้ำซ้อนทำไม สะท้อนวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถระดับใด ใครจะเอาใครกลับมาได้หรือไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าห่วง ไหนๆก็สารภาพแล้วว่าไม่เก่ง และมีคนเก่งกว่า 8 ปียังทำประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้ ถ้าถึงขั้นจะแก้รัฐธรรมนูญให้อยู่ 12 ปี ประเทศชาติและประชาชนจะพังหนักขนาดไหน
“ประเทศนี้ไม่ได้มีแค่ 3 ป.ที่พอเคลียร์กันได้แล้วก็หวังจะอยู่ยาว เอาเวลาไปเตรียมตอบคำถาม ใน 30 ชั่วโมงที่ถูกอภิปราย ถ้าได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุดจะตัดสินใจอย่างไร” นายอนุสรณ์ กล่าว
