ชนสนั่นกลางแยก หนุ่มรพ.ตราด เจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิต หลังแพทย์ใช้เวลาช่วยนานกว่า 10 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ที่บริเวณถนนสุขุมวิท สามแยกโรงพยาบาลตราด ศูนย์วิทยุสภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งชาวบ้านว่ามีอุบัติเหตุจยยชนกับรถยนต์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุ 1 รา ย หลังจากได้รับแจ้งแล้วทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือ ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก หมายเลขทะเบียน 1 กง 1153 ตราด ด้านหน้ารถพังเสียหาย ล้มอยู่กลางถนน พบผู้บาดเจ็บเป็นชายได้ประเมินอาการในเบื้องต้นพบว่า ไม่รู้สึกตัว ขาซ้ายหัก จากนั้นจึงได้ประปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะประสานเจ้ารถกู้ชีพรพ.ตราด ทำการเคลื่อนย้ายส่งรักษาตัวต่อที่รพ.ตราด
ข่าวน่าสนใจ:
- สองแม่ลูกปีนหน้าต่างชั้น 2 หนีตายไฟไหม้บ้านกลางดึก คาดไฟฟ้าลัดวงจร
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
- สลด เจ็ทสกีชน นทท.จมทะเลหาย ศพโผล่กลางดึก หาดกะรน ต.กะรน จนท.เร่งสืบสวน
- นนทบุรี กระบะเมา เฉี่ยว จยย.ล้ม พลเมืองจอดช่วย กับถูก จยย.อีกคันพุ่งชนซ้ำเจ็บ 4
ทราบชื่อต่อมาคือ นายทัพพสาร สารเชื้อ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.6 ต.ตะกาง อ.เมือง จ.ตราด เป็นพนักงานโรงพยาบาลตราด และใกล้กัน พบรถกระบะฟอร์ดหมายเลขทะเบียน บฉ 8085 ตราด จอดอย่กลางถนน ได้รับความเสียหายด้านซ้ายมีรอยยุบ และกระจกหน้าแตก พบผู้ขับรถกระบะ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชื่อ นาย มานะ พานิชสุโข อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 222 หมู่ 2 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด
นายมานะ เล่าว่า ตนเองมาจากตลาดและเลี้ยวขวาสุ่งหน้าไปทางถนนวิวัฒนะ ระหว่างนั้นสัญณาณไฟกระพริบเป็นสีเหลือง ส่วนรถจักรยานยนต์มาทางตรง แต่ไม่คิดว่าคู่กรณีขี่มาเร็วขนาดนี้และไม่มีรอยเบรกจึงได้ชนกัน
จากนั้น พันตำรวจโท วุฒิชัย เหล่าบุตรศรี ร้อยเวรสภ.เมืองตราด ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ และตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และสอบปากคำคนขับรถ ทำการบันทึกภาพ ในเบื้องต้นยังไม่สรุปข้อสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ คงสอบสวนคนขับรถและตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งต่อไป
สำหรับนายทัพพสาร สารเชื้อ เพิ่งออกเวรแล้วกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ก่อนประสบอุบัติเหตุ ล่าสุดนสยทัพพสาร สารเชื้อ เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 10.27 น. หลังแพทย์พยายามช่วยชีวิตนานกว่า 10 ชั่วโมง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: