หนุ่มวัย 28 ปีเป็นโรคซึมเศร้า เครียดถูกทวงหนี้,เป็นบุคคลตกหล่น ส่งข้อความหาเพื่อนสาวให้มางานศพ ก่อนผูกคอตาย
เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2561 ร้อยตำรวจเอก สมโภช ชูศีรจิต ร้อยเวร สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลักเกาะ จ.ตราด ว่า มีเหตุผู้เสียชีวิต จากการผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 1 ต. ท่าพริก อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงออกไปทำการตรวจสอบพร้อมแจ้งประสานไปยังแพทย์เวร โรงพยาบาลตราดเพื่อร่วมออกทำการชันสูตรพลิกศพ
ซึ่งบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านไม้อยู่ภายในซอยวัดท่าพริก มีนายอารักษ์ ชื่นบำรุง อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นอาของผู้เสียชีวิต และญาติพี่น้องคนอื่น ๆ รวมทั้งเพื่อนสาวคนสนิทของผู้ตาย นั่งรออยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยนายอารักษ์ ได้พา ร้อยตำรวจเอก สมโภช ชูศีรจิต เข้าไปด้านหลังบ้านซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเก็บของ พบว่าผู้ตายคือนายเดชา พันเงินเลี้ยง อายุ 28 ปี ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอกับขื่อหลังคาบ้าน และมีเก้าอี้อยู่ปลายเท้ายที่ผู้ตายใช้รองสำหรับการฆ่าตัวตาย
นางสาวพัชรินทร์ พุ่มไม้ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเพื่อสาวคนสนิทของนายเดชา พันเงินเลี้ยง และเป็นคนที่พบว่านายเดชา เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า เป็นเพื่อนกับนายเดชามาได้ 3 เดือน ก่อนหน้าเสียชีวิต นายเดชา ได้ส่งข้อความว่าให้มางานศพเค้าด้วยนะ ตนเองยังตอบกลับไปว่า อย่าคิดมากอย่าเครียด คิดลูกเข้าไว้ และที่ผ่านมานายเดชา เคยปรับทุกข์ให้ฟังว่าเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่ได้พบแพทย์มานานแล้ว และมีเครื่องเครียดคือเรื่องการที่ตัวนายเดชา เป็นบุคคลตกสำรวจ ทำให้ไม่มีบัตรประชาชน แม้ จะมีการติดต่อทำบัตรประชาชนกับทางราชการแล้วก็ตาม และอีกเรื่องเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา มี เจ้าของร้านคาราโอเกะโทรศัพท์ไปทวงเงินกับตนเองบอกว่าเดชาติดเงินไว้ 1,000 กว่าบาท ซึ่งตนเองก็ปฏิเสธไป และได้โทรมาบอกกับเดชาว่าไปติดหนี้เค้าทำไม ไม่มีก็ไม่ต้องไปกิน
ด้านนายอารักษ์ อาของนายเดชา บอกว่า ครอบครัวของตนเองพื้นเพเป็นชาวอำเภอบ่อไร่ และพากันมาทำงานรับจ้างที่ในอำเภอเมืองโดยเช่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ ไม่ทราบเรื่องที่นายเดชาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเพราะไม่เคยเห็นไปพบหมอ แต่เมื่อคืนเดชาไปเที่ยวกลับมาประมาณ 01.00 น. พอตอนเช้าตนเองและภรรยาได้ออกจากบ้านพักตั้งแต่ 07.30 น. ซึ่งปกติจะเข้ไปปลุกให้ลุกไปทำงานด้วยกัน แต่เมื่อคืนเห็นว่าเดชากลับมาดึก และนอนอยู่ในเต็นท์ กระทั่งนางสาวพัชรินทร์ มาจากพัทยาและมาพบจึงรู้ว่านายเดชาผูกคอตาย
“นายเดชา ไม่มีบัตรประชาชน เพราะเมื่อตอนอายุ 2 ขวบบ้านถูกไฟไหม้ทำให้เอกสารหลักฐานทั้งหมดถูกไฟไหม้จนหมดสิ้น แต่แม่ของนายเดชา ไม่ยอมไปแจ้งทางอำเภอว่าหลักฐานถูกไฟไหม้ ทำให้นายเดชาเป็นบุคคลตกสำรวจ ทั้ง ๆ ที่พี่สาวนายเดชาและญาติพี่น้องทุกคนมีบัตรประชาชนกันทั้งสิ้น ซึ่งตนเองได้ยื่นขอทำบัตรประชาชนให้นายเดชา ที่อำเภอบ่อไร่ไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้รอให้เจ้าหน้าที่เรียกตนเอง ญาติพี่น้องไปทำการสอบสวน โดยระยะเวลาที่ยืนคำขอจนถึงวันนี้ประมาณ 3 ปีแล้ว”
