ตำรวจสนธิกำลังปฏิบัติการล้อมจับ “แจ๊ค วารากร” คนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าล้มเหลว หลังคนร้ายไหวตัวหลบหนีไปก่อน
อ.เขาสมิง จ.ตราด/ความคืบหน้าการติดตามหาคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าปล้นร้าน 7-11 เมื่อเวลา 01.05 น. วันที่ 21 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้เงินไป 9,000 บาทนั้น
พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รองผู้บังคับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจ.ตราด ได้รับมอบหมายจากพลตำรวจธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ให้ติดตามหาคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าปล้นร้าน 7-11 เนื่องจากเป็นคดีอุจกรรจ์ ซึ่งพ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ ได้เรียกชุดสืบสวนจากกก.สส.ตร.ภจว.ตราด
นำโดย พ.ต.อ.ประภาส เหมือนปิ๋ว ผกก.กก.สส.ภ.จว.ตราดและชุดสืบสวนสภ.เมืองตราด และตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษจ.ตราดทำการสืบสวนหาข่าวและติดตามคนร้าย โดยได้หลักฐานสำคัญสำคัญจากภาพวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ และได้พบรูปพรรณสันฐานคนร้าย จึงได้ออกหมายจับ นายวรากร เกษร อายุประมาณ 30 ปี หลังสืบจากรถจักรยานยนต์ที่นายวรากร ยืมรถของเพื่อนมา มาก่อเหตุ
จากนั้น,ในเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ประภาส เหมือนปิ๋ว พ.ต.ท.เกรียติศักดิ์ แก่นมั่น สารวัตรสืบสวน สภ.เขาสมิง ได้ร่วมกันประชุมชุดสืบสวนและกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ห้องประชุมสภ.เขาสมิง หลังพบว่า คนร้ายซุกซ่อนอยู่ที่บ้านแสนตุ้ง ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ในซอยตรงข้ามปั๊มน้ำมันพีที ซึ่งเป็นบ้านญาติพี่น้อง
เมื่อถึงที่บ้านญาติ ตำรวจชุดสืบสวนและนปพ.ตราดได้ทำการปิดล้อมบ้านหลังแรกที่เป็นห้องสร้างด้วยอิฐบล๊อค ในสวนมังคุด พบตัวนายจ่า เกษร อายุ 34 ปี พี่ชายนายวรากร จึงเข้าไปยังบ้านหลังที่ 2 ที่ที่เป็นบ้านขนาดเล็ก แต่พบว่าไม่มี จึงเดินเข้าไปยังบ้านหลังที่ 3 และทำการปิดล้อม แต่พบเพียงผู้หญิงวัยกลางคนอยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งเป็นอาของคนร้าย
ตำรวจชุดสืบสวนจึงเข้าไปยังบ้านหลังที่ 4 และทำการปิดล้อม แต่ไม่พบเช่นกันมีเพียงป้าของคนร้ายที่มีอาการตกใจ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า หลานไม่ได้เดินทางมาทีทบ้านนายกว่า 2 เดือนแล้ว และไม่ทราบว่าหลานไปทำความผิดอะไรมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจึงออกจากบ้านเป้าหมายทั้งหมด และเดินทางกลับเพื่อออกติดตามสืบสวนต่อไป
