อ้างถูกสวมสิทธิ์เงินเยียวยา มีเงินโอนเข้าบัญชี ทั้งที่ไม่ได้เปิดบัญชีและยังไม่เคยลงทะเบียน ผู้จัดการ ธกส.ตราด เผย บัญชีเปิดนานแล้วที่โคราช และยังมีความเคลื่อนไหว ด้านประมง บอกเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องทำด้วยตัวเอง
เวลา 14.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด นางลัดดา สมบูรณ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ ม.4 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ผู้ประกอบอาชีพประมง พร้อมลูกสาว นำหลักฐานเข้าพบ ร.ต.อ.กันตภณ สักขาพรม เพื่อปรึกษาข้อกฎหมายหลังอ้างว่าถูกสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท
นางลัดดา เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนทราบเมื่อวานนี้ หลังจากออกไปทำประมงกลางทะเลนาน 10 วัน จากนั้นได้ให้เพื่อนร่วมงาน ช่วยลงทะเบียนเยียวยาเกษตร แต่ปรากฏว่าหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก กลับถูกใช้ลงทะเบียนไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตนเองยังไม่เคยลงทะเบียนใช้รับเงินเยียวยาเกษตรเลย
รวมไปถึงการเปิดบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. เช่นกัน ทำให้วันนี้ต้องเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ เพราะมีการโอนเงินเยียวยา 5,000 บาท งวดแรกเข้าบัญชีแล้วเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563
ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายนราธิป สุรรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาตราด และได้ชี้แจงว่า ชื่อนางลัดดา สมบูรณ์ มีการเปิดบัญชีจริงอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว และยังคงมีการเคลื่อนไหวของบัญชีอยู่ ขณะที่ชื่อนางลัดดา สมบูรณ์ ไม่มีการเปิดบัญชีในจังหวัดตราด แต่อย่างใด
พร้อมทั้งแนะนำให้ นางลัดา ตรวจสอบข้อมูลให้รอบครอบ ว่ามีคนในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดนำบัตรประชาชนไปปิดบัญชีหรือไม่ และได้แนะนำให้ดำเนินการตามกฎหมาย
ด้านนาวาตรีสรรเสริญ เสรีรักษ์ ประมงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าการขึ้นทะเบียนรับเยียวยาเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคโควิด 19 ของกรมประมงนั้น ในส่วนของจังหวัดตราด ให้แต่ละอำเภอจะรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำำ (ทบ.1) และการขึ้นทะเบียน ชาวประมง (ทบ.3) ซึ่งเกษตรกรต้องเป็นผู้ที่มายื่นเรื่องของขึ้นทะเบียนด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อขอรับสิทธิ์รับเงินเยียวยา จะไม่มีใครสามารถขึ้นทะเบียนให้ใครแทนได้ แต่กรณีของนางลัดา นั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ได้รับเงินเยียวยา น่าจะเกิดความผิดพลาดอะไรบ้างอย่าง แต่จะขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
