โอละพ่อ!! จบด้วยดี ป้าไม่ได้โดนสวมสิทธิ์เงินเยียวยา แต่จำไม่ได้เคยเปิดบัญชีที่โคราช ด้าน ธกส.ตราด ช่วยเหลือย้ายเงิน 5,000 บาทจากโคราชเข้าบัญชีใหม่ที่สาขาตราด
ความคืบหน้านางลัดดา สมบูรณ์ อายุ 50 ปี ชาวประมงคลองใหญ่ เข้าพบตำรวจสภ.เมืองตราดและนายนราธิป สุรรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาตราด อ้างว่าชื่อตัวเองถูกสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตร เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดยเช้าวันนี้เวลา 9.30 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2563 นางลัดดา สมบูรณ์ ชาวประมงคลองใหญ่ เดินทางมาเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เล่มใหม่ เพื่อรับเงินเยียวยาเกษตร 5,000 บาท หลังจากที่นายนราธิป ได้ตรวจสอบบัญชีนางลัดดา พบว่าเป็นเพียงการหลงลืมเท่านั้น ไม่มีใครสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยาแต่ใด
ข่าวน่าสนใจ:
นายนราธิป กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องแล้ว ได้ตรวจสอบชื่อนางลัดดา สมบูรณ์ และพบว่านางลัดดา มีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาห้วยแถลงจริง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 จึงให้ทางสาขาห้วยแถลง ส่งเอกสารการเปิดบัญชีทั้งหมดมาให้สาขาตราด เพื่อให้นางลัดดา ตรวจสอบทั้งชื่อ ทั้งบัตรประชาชน รวมไปถึงลายมือเซ็นต์ชื่อด้วย เมื่อนางลัดดา ตรวจสอบแล้ว ก็ยอมรับว่าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง แต่จำไม่ได้ว่าเคยเปิดบัญชีไว้ที่สาขา และไม่มีการสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด แต่เกิดจากความเข้าใจผิดและลืมว่าเคยเปิดบัญชีไว้
“ซึ่งกระบวนการโอนเงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท จะเป็นกระบวนที่อำนวยความสะดวกให้กับเกษตรให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่แล้วลูกค้า ธกส.สาขาตราด มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นเกษตรกร และที่ผ่านมาหากมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรจากภาครัฐนั้น จะมีการโอนเงินเข้าบัญชี ธกส. เพื่อง่ายต่อการจัดการ ซึ่งนางลัดดา ก็เป็นเกษตรกร ภาคประมงเช่นกัน และได้รับสิทธิ์เยียวยา 5,000 บาท อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องไปลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และเงินก็โอนเข้าบัญชีที่นางลัดดา สมบูรณ์ ตามเคยเปิดไว้แล้วเมื่อปี 2558 ที่สาขาห้วยแถลง ตามอัตโนมัตินั้นเอง” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาตราด กล่าว
ส่วนนางลัดดา กล่าวทั้งเสียงหัวเราะว่า ตนเองจำไม่ได้ว่าเคยเปิดบัญชีไว้ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ยอมรับว่า เมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะกลับมาทำงานเป็นจังหวัดตราด เป็นผู้ช่วยไต๋เรือประมงนานหลายปีแล้วที่จังหวัดตราด โดยลืมไปว่าเคยเปิดบัญชีธนาคารไว้ที่จังหวัดนครราชสีมา
แต่เมื่อรัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือเงิน 5,000 บาท ตนเองจึงให้เพื่อนร่วมงานช่วยลงทะเบียนให้ แต่ปรากฎว่ากลับลงทะเบียนรับสิทธิ์ไม่ได้ แถมยังมีเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว ทำให้ตนเองและญาติพี่น้องต่างตกใจ คิดว่าถูกสวมสิทธิ์รับเงินเยียว จึงนำหลักฐานทั้งหมด มาขอความชัดเจนกับธนาคารเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา
และวันนี้ ทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว ว่าไม่มีใครสวมสิทธิ์ตนเอง แต่เป็นเพียงการเข้าใจผิดและความหลงลืมของตัวเอง ซึ่งต้องขอบคุณทางธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาตราดที่ช่วยเหลือในเรื่องนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: