ชนสยองคนขาดสองท่อน! รถเสียหาย 3 คัน เมียผู้ตายท้อง 6 เดือนกอดลูกสาวอีกคนร้องไห้ขาดใจ ด้านคู่กรณีบอก หักหลบรถย้อนศรก่อนแหกโค้ง ยอมรับดื่มสุรา ขณะผกก.จวกร้อยเวรทำงานช้า
เวลา 21.40 น. วันที่ 27 กรกฎาคม 2563 ร.ต.อ.สุกฤษ บึงจันทร์ ร้อยเวรสภ.แหลมงอบ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ในที่เกิดเหตุบริเวณ โค้งองค์การบริหารส่วนตำบลบางปิด ถนนสายแหลงอบ-บางกระดาน อ.แหลมงอบ จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด เดินทางร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์คันแรก เป็นรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส หมายเลขทะเบียน กท 8106 จันทบุรี สภาพรถด้านขวาเสียหายทั้งแถบ ที่จอดอยู่หน้ารถขายชำ ส่วนคนขับรถชื่อนายสุริยาวุฒิ พุฒโสม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/2 ม.5 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ถูกชนขาดสองท่อน ท่อนล่างกระเด็นไกลกว่า 20 เมตร ท่อนบนกระเด็นไกลกว่า 40 เมตร
คันที่สองเป็นรถยนต์กระบะ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน บฉ 601 ตราด สภาพรถด้านซ้ายถูกชนเป็นทางยาว คนขับชื่อนายวงศ์กร พันธุพานิช อายุ 19 ปี ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน บต 5069 ตราด ที่จอดห่างจากรถยาริส ประมาณ 120 เมตร คนขับชื่อนายณัฐกมล แช่ตั๋น อายุ 21 ปี พักอาศัยอยู่ ต.บางปิด อ.แหลมงอบ จ.ตราด อยู่ในอาการคล้ายกับคนเมาสุรา
ขณะที่นางสาวประภาศรี แซ่ลี้ ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ลูกสาวอยู่ 6 เดือน และลูกสาวอายุ 8 ขวบ ผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้อยู่ในที่เกิดเหตุโดยมีญาติพี่น้องช่วยกันให้กำลังใจ
นายวงศ์กร กล่าวว่า ตนเองขับรถมาจากทางบ้านบางกระดาน เพื่อกลับบ้านตัวเองที่เป็นร้านค่าขายของชำ แต่เมื่อถึง ปรากฏว่า รถยนต์เก๋งของนายสุริยาวุฒิ จอดริมถนน ซื้อของที่ร้านค้า และจังหวะที่นายสุริยาวุฒิ กำลังจะเปิดประตูขึ้นรถ รถคู่กรณีที่ขับมาจากทางอบต.บางปิด เสียหลักแหกโค้งมาด้วยความเร็วพุ่งชนรถนายสุริยาวุฒิและตัวนายสุริยาวุฒิ จนกระเด็น แล้วมาชนรถตัวเองอีกคันจนเสียหาย
ขณะที่นายอนุชิต ง่วนฉิม น้องชายนายสุริยาวุฒิ ที่นั่งรถมาคันเดียวกัน บอกว่า ตนเองและพี่ชายเพิ่งกลับมาจากทำงาน จากนั้นทั้งตัวเอง พี่ชาย ภรรยาพี่ชาย และหลาน ทั้งหมดจะขับรถไปบ้านเพื่อนกัน และได้แวะซื้อของที่ร้านของชำ โดยที่พี่ชายเป็นคนลงไปซื้อ และเมื่อพี่ชายกำลังขึ้นรถก็ถูกคู่กรณีขับรถชนแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อตำรวจนำตัวนายณัฐกมล มายังสถานีตำรวจแล้ว ปรากฏว่า ตำรวจไม่ยอมนำนายณัฐกมล มาเป่าวัดแอลกอฮอล์ อ้างว่าต้องรอเป่าพร้อมกับตัวแทนประภัยรถยนต์ของนายณัฐกมล แต่กลับแจ้งว่าญาติผู้เสียชีวิตว่า ได้ทำการเป่าแอลกอฮอล์แล้วครั้งนึง แต่ไม่ยอมบอกว่าเกินกฎหมายหรือไม่
จากนั้นญาติผู้เสียชีวิต ได้เดินทางสอบถามนายณัฐกมล ถึงอุบัติเหตุที่เกิดเหตุขึ้น ทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ขี่รถย้อนศรมา ด้วยความตกใจเลยต้องหักหลบและเสียหลักแหกโค้ง ซึ่งญาตินายณัฐกมล ยอมรับว่า มีดื่มสุรามาจริง
ซึ่งระหว่างที่รอตัวแทนประกันภัยของนายณัฐกมล ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตพยายามกดดันตำรวจให้เร่งเป่าแอลกอฮอล์อีกครั้ง เนื่องจากรอเวลานานกว่า 30 นาทีแล้ว แต่สุดท้ายรอเวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง กว่าจะทำการเป่ารอบที่สอง ผลปรากฏว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนด ทำให้ญาติต้องโทรศัพท์ร้องเรียกไปยังตำรวจภูธรจังหวัดตราด กับพฤติกรรมของร้อยเวรรายนี้ อีกทั้งยังปล่อยตัวนายณัฐกมล แช่ตั๋น กลับบ้านไปอีก
และในเวลาต่อมา พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแหลมงอบ เดินทางมาติดตามคดีตัวต่อตนเอง พร้อมทั้งตำนิการทำงานของร้อยเวรที่ปล่อยตัวนายณัฐกมล แช่ตั๋น กลับบ้าน และการทำงานล่าช้า ในการนำนายณัฐกมล แช่ตั๋น มาเป่าแอลกอฮอล์ เนื่องจากเห็นว่า ญาติของผู้เสียชีวิตไม่สบายใจกับการทำหน้าที่ของร้อยเวรที่ดึงเวลาในการเป่าแอลกอฮอล์ พร้อมกับพูดคุยและทำเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างต่อไปตรงมา พร้อมทั้งสั่งการให้ร้อยเวรนำตัวนายณัฐกมล แช่ตั๋น ไปเจาะเลือดวัดปริมาณแอลกอฮอล์
