ตม.ตราด,หน่วยประสานงานชายแดนไทยกัมพูชาด้านจ.ตราดนำตัวชาวตราด 5 คนเข้าตราด หลังได้รับการปล่อยตัว และผู้การตำรวจตราดเดินทางรับตัวที่จ.เกาะกง เด็กตราดร่ำไห้ขอบคุณ เตือนคนไทยอย่ามาทำงานนี้ในกัมพูชา
เวลา 10.00 น.วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.ตราด ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จว.ตราด, น.อ.ยอดทะนง พัดประดิษฐ หัวหน้าหน่วยสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ตราด (สน.ปทก.กปช.จต.), เจ้าหน้าที่ ฉก.นย.182, ด่านศุลกากรคลองใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปรับตัวเยาวชนจ.ตราดจำนวน5 คน ที่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา หลังได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยหลายหน่วยงาน หลังจากถูกหลอกให้เข้าไปทำงานในกาสิโนในเขตเศรษฐกิจพิเศษดาราสาคร จังหวัดเกาะกง ที่มีกลุ่มนายทุนชาวจีนดำเนินธุรกิจอยู่
โดยการเข้ามารับตัวครั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราดได้มีการประสานงานกับนางสาวมิถุนา พราหมณ์เกสร ผู้ว่าราชการจ.เกาะกง ซึ่งมีนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจ.ตราดและนายณรงค์ เทพเสนา ปลัดจ.ตราด เพื่อดำเนินการติดต่อเพื่อรับตัวมาก่อนหน้านี้ 1 วัน เพื่อนำเยาวชนตราดจำนวน 5 คน ออกมา ประกอบด้วย
1. นายมนตกานต์ อายุ 16 ปี ชาวตำบลหนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด
2. น.ส.นันทนา อายุ 19 ปี ชาวตำบลเวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
3. น.ส.ปานตะวัน อายุ 21 ปี ชาวตำบลโป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
4. นายอิศเรศ อายุ 18 ปี ชาวตำบลหนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด
5. น.ส.วาสนา อายุ 33 ปี ชาวตำบลคลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
เวลา 11.00 น.ขบวนรถยนต์ 3 คัน เดินทางจากจุดตรวจตม.บ้านจามเยี่ยม อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เข้ามายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองคลองใหญ่ ที่มี พ.ต.ท.อนงค์นาฎ กลันทกพันธ์ รองผกก.ตม.ตราดต้อนรับเพื่อจัดทำเอกสารเข้าเมืองพร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคลองใหญ่ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ก่อนนำตัวเดินทางไปกักตัวที่โรงแรมเขาสมิง พาราไดซ์ ต่อไป
นาวาเอกยอดธง กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากเยาวชน จ.ตราด เพื่อขอให้ช่วยเหลือนำตัวออกจากที่ทำงานในกาสิโนใน จ.เกาะกง หลังจากถูกหลอกเดินทางเข้ามาทำงานในกัมพูชา โดยหลบหนีเข้าเมืองโดยผ่านนายหน้าที่จัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้รายละ 35,000 บาท จากนั้นนำตัวไปทำงานในกาสิโนในพื้นที่ที่กลุ่มทุนชาวจีนเช่ารัฐบาลกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาจะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้
จากนั้นให้ทุกคนหารายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดเป็นรายเดือน 50,000-100,000บาท /เดือน หากทำไม่ได้ก็จะถูกให้อยู่คนเดียว และอาจจะมีการข่มขู่และขาย(ส่ง)ไปยังกลุ่มทุนจีนรายอื่นๆ ที่มีเครือข่ายในกัมพูชา ซึ่งหลังจากได้รับการประสานงานขอความช่วยเหลือมาแล้วจึงได้ ประสานงานผ่านผู้ว่าราชการ จ.ตราด เพื่อติดต่อไปยังผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง เพราะต้องใช้อำนาจของกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาประสานติดต่อ ซึ่งนายณรงค์ เทพเสนา ปลัดจังหวัดได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการเกาะกง และได้รับการช่วยเหลือจึงเดินทางมารับตัวได้ในวันนี้
ขณะที่พลตำรวจตรีปกรณ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งถึงการที่คนไทย (ตราด) ถูกหลอกไปทำงานในกัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง และต้องการให้ช่วยเหลือเดินทางกลับ จึงได้ประวานงานหน่วยงานที่เกี่ยว ทั้งหน่วยประสานงานชายแดนไทยกัมพูชา และทางจังหวัดเกาะกง โดยผู้ว่าราชการจ.เกาะกง จึงได้เดินทางมารับตัวกลับ ซึ่งในเรื่องการเดินทางเข้าออกโดยผิดขั้นตอนนั้นยังจะต้องพิจารณาต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร
ขณะนางสาวปานตะวัน กล่าวว่า การเดินทางมาทำงานที่กัมพูชาเพราะได้รับการติดต่อว่าให้เข้าไปทำงานออนไลน์มีรายได้เดือนละ 30,000 บาท โดยเข้ามายัง จ.ตราด สระแก้ว โดยหลบหนีเข้าเมืองซึ่งมีคนไทยคอยรับส่งตลอด จากนั้นมาทำงานในกาสิโนที่มีคนจีน ในจ.เกาะกง โดยให้ขายสินค้าผ่านออนไลน์ และชวนคนไทยลงทุน พร้อมซื้อสินค้า เมื่อได้มากขึ้นก็จะปิดบัญชีไป ซึ่งไม่ต้องการทำงานในลักษณะนี้ และทำไม่ได้ จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือตนเองและเพื่อนๆให้เดินทางกลับบ้าน
และยอมรับว่า ตนเองนำเพื่อน ๆ มาลำบาก ต้องกราบขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือให้เดินทางกลับมาได้ในครั้งนี้ และยังเตือนคนไทยทุกคนที่ต้องการเดินทางไปทำงานในประเทศกัมพูชาในลักษณะแบบนี้ไม่ควรเดินทางมาเพราะไม่ใช่งานที่ดีเหมือนอย่างที่มีการเชิญชวน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: