ฝายดินชุมแสงทนแรงน้ำไม่ไหวพังกลางดึก น้ำต้นทุนสำหรับหน้าแล้งแทบไม่เหลือ นายกอบต.สะตอ เร่งแก้ไขนำเครื่องสูบน้ำ สูบน้ำจากที่ต่ำไปที่สูงทดแทนน้ำที่หายไป
เมื่อคืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 นายตรวจ สนเถ็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านทุ่งกระบอก ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผยว่า ฝายดินชุมแสง ที่ทาง อบต.สะตอ ได้ทำการปิดกั้นคลองสะตอ เพื่อเก็บกักน้ำไว้เพื่อใช้ในช่วงหน้าแล้งได้พังทลายลงมาหลังจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่และใน จ.จันทบุรี และน้ำได้ไหลงลงมาในคลอง
ซึ่งก่อนหน้านี้ ระดับน้ำได้สูงขึ้นเกือบถึงสันฝายดิน และทางอบต.สะตอได้แก้ปัญหาด้วยการขุดร่องระบายน้ำเหนือฝายเพื่อระบายน้ำออกไป เพื่อลดแรงกดดันด้านหน้าฝายให้ลดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อฝนตกลงมาเพิ่มในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น และทาง อบต.สะตอ ได้เข้ามาขุดร่องน้ำเหนือสันฝายเพื่อระบายน้ำ แต่ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เนื่องจากมีปริมาณมาก ทำให้ฝายดินชุมแสงได้พังทลายลงมาดังกล่าว
นายปราโมทย์ กล่าวว่า ฝายดินชุมแสงที่สร้างด้วยงบประมาณของ อบต.สะตอ กว่า 290,000 บาท เพื่อเก็บกักน้ำเพื่อช่วยเกษตรกรใน 3 หมู่บ้าน ที่จะมีการผันน้ำขึ้นไประยะทาง 8 กม. เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง แต่เมื่อฝายดินชุมแสงพังไป ทำให้ต้นทุนน้ำของ อบต.สะตอ ที่จะช่วยในการเกษตรกรรมต้องหายไป จึงต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน ด้วยการทำการตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ชลประทานจ.ตราด ได้สนับสนุนมาติดตั้งที่คลองสาขาของคลองสะตอที่อยู่ในซอยอีแรง เพื่อสูบน้ำมาเติมอ่างทุ่งช้างตายเพื่อนำมาใช้ในช่วงหน้าเเล้ง ซึ่งจะสามารถบรรเทาความเดือนร้อนได้
นายก อบต.สะตอ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขฝายดินชุมแสงนั้น ทาง อบต.สะตอ ร่วมกับโครงการชลประทานจ.ตราด ได้ทำการออกแบบฝายถาวรไว้แล้วและทำมานานกว่า 20 ปี แต่ยังไม่มีการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งตำบลสะตอปัจจุบันมีฝายในพื้นที่ 4 ตัว
และจำเป็นต้องมีอีก 3 ตัว 1 ใน 3 ตัวก็คือ ฝายชุมแสง ฝ่ายตาพลาย 2 และฝายตกชก หากโครงการชลประมาณสามารถก่อสร้างได้จะแก้ปัญหาได้มาก อย่างไรก็ตาม หากจะแก้ไขอย่างถาวรจะต้องสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสะตอจึงสามารถแก้ไขได้ทั้งการขาดแคลนน้ำในหน้าแล้ง และการแกปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: