ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ลงพื้นที่ตรวจสอบไฟไหม้โรงแรมโซเนวา ล่าสุดยังไม่สรุปสาเหตุไฟไหม้ได้ แต่พบซากนาฬิการาคา 21,000,000 บาท
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พล.ต.ต.ทนงค์ ทองประดับเพชรผบก.ศพฐ.2 ,พ.ต.อ.วสุรัชย์ ชัยธีราพัฒน์ รองผบก.ภ.จว.ตราด,พ.ต.อ.หญิง สุรดา มหันตะกาศรีผกก.พฐ.จว.ตราด, พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ สว.ส.ทท.6กก.2บก.ทท.1 นายมนัส ปรังทำนุ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและควบคุมอาคาร สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองตราด นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงแรมโซเนวา คิรี เกาะกูด เพื่อตรวจสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้และรวบรวมพยานหลักฐาน
โดยการตรวจสอบที่เกิดเหตุครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าพื้นที่และเก็บหลักฐานต่างๆโดยเฉพาะพื้นที่เกิดระเบิดขึ้นแล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ รวมทั้ง ห้องพักที่เจ้าของนาฬิกาพักหลับนอนอยู่ กระทั่ง พบซากของนาฬิกาที่มีการตามหาอยู่ ถูกเพลิงเผาได้รับความเสียหาย และไม่สามารถใช้การได้ สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าต้นเพลิงเกิดที่บริเวณภายในวิลล่า โซน D เนื่องจากเป็นจุดที่มีการตรวจพบเส้นเมนสายไฟ 3 เฟช 4 สาย ประกอบสายไฟภายในอาคารเก่าแต่ยังไม่สรุปสาเหตุซึ่งจะได้ทำการเก็บตรวจสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และจะได้มีการประชุมความเห็นของ พฐ.2 เพื่อวิเคราะห์โดยละเอียดต่อไป โดยในประเด็นเรื่องนาฬิกาของผู้เสียหายที่มีการอ้างถึงว่าถูกเพลิงไหม้ภายในวิลล่านั้น ในวันนี้ได้มีการตรวจพบนาฬิกาดังกล่าว และได้ตรวจยึดเป็นของกลางประกอบคดี ส่วนทรัพย์สินอื่นอยู่ในระหว่าตรวจสอบเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในส่วนของการรับผิดชอบความเสียหายต่อนักท่องเที่ยว นั้น ได้สอบถามจากทางโรงแรมทราบว่า ได้มีการทำประกันไว้ และอยู่ในระหว่างทำการตรวจสอบความเสียหาย และรอผลการสรุปสำนวนของพนักงานสอบสวน และจะได้ทำการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นักท่องเที่ยว ใส่ส่วนของทางโรงแรมได้มีการคืนค่าห้องพักให้แก่นักท่องเที่ยวเต็มจำนวน ในราคา คืนละ 3.5 แสนบาท (2 คืน รวม 7 แสน) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในส่วนของ ส.ทท.6 กก.2 บก.ทท.1 (ตำรวจท่องเที่ยวตราด) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พฐ 2 และโยธา ได้ตรวจสอบในเรื่องแบบแปลนอาคาร วิลล่าดังกล่าว พบว่าภายในมีการติดตั้งสโม๊กตรวจจับควัน ถังดับเพลิง และยังได้ทำการตรวจแบบตรวจมาตรฐาน 19 แบบ ของ บช.ทท. ตรวจมาตรการ DMHTTA , shaplus ด้วย อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าโดยการพบนาฬิกาครั้งนี้ เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถยืนยันความจริงที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักจริง และเกิดความเสียจริง ตามที่ได้กล่าวอ้าง ซึ่งราคานาฬิกา
มีมูลค่าราว 21,000,000 บาท
