ตำรวจตราด จับสองผัวเมีย ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ได้ของกลางเพียบทั้งเงินสด ทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง โฉนดที่ดิน รวมกว่า 10 ล้านบาท ขณะผัวเมียแจงไม่ใช่ทรัพย์สินจากเงินปล่อยเงินกู้ มีเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เวลา 14.30 น. วันที่ 23 มกราคม 2562 พล.ต.ต.ประสาน บุญเหมือน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.นพดล สุทธิเสริม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตราด ร่วมสอบปากคำนางสุนีย์ ลาภหิรัญ อายุ 46 ปี และนายนิมิตร สองสามีภรรยา หลังถูกตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดตราด จับกุมในคคีปล่อยเงินกู้นอกระบบ พร้อมของเงินสด ทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง โฉนดที่ดิน บัญชีธนาคาร 140,000 บาท รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน พร้อมสมุดรายชื่อลูกหนี้ จำนวน 4 เล่ม
พล.ต.ต.ประสาน บุญเหมือน กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า นางสุนีย์ ลาภหิรัญ มีพฤติกรรม ปล่อยเงินกู้เงินนอกระบบในอัตราที่เกินกฎหมายกำหนด ร้อยละ 15 ต่อปี ทำให้ตำรวจส่งเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมของทั้งสองคนเป็นเวลา 1 เดือน เมื่อได้เวลาที่เหมาะสม ได้นำหมายค้นจากศาลจังหวัดตราด เข้าค้นบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นร้านขายข้าว ที่อยู่ข้างสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด พบนางสุนีย์ ลาภหิรัญ และเงินสดจำนวนหนึ่ง จากนั้นตำรวจเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 46 ม.3 ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด พบนายนิมิตร ที่กำลังขนตู้เชฟออกจากบ้าน ตำรวจจึงเข้าคุมตัวนายนิมิตร พร้อมยึดตู้เซฟไว้ตรวจสอบที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดตราด
จากนั้นได้ให้นางสุนีย์ ลาภหิรัญ เปิดตู้เซฟต่อหน้าตำรวจ เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในตู้เซฟ พบโฉนดที่ดิน 10 ฉบับ ทองคำแท่งรวม 360 บาท เงินสด 1,004,900 บาท รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งของกลางทั้งหมดตำรวจได้ยึดไว้ตรวจสอบเบื้องต้น
นางสุนีย์ ลาภหิรัญ กล่าวว่า ของกลางทั้งหมดเป็นเงินจากมรดก ค้าขายผลไม้ ค้าทองคำ ค้าที่ดิน และเงินบางส่วนได้มาจากปล่อยเงินกู้จริง ที่ปล่อยให้ลูกหนี้ร้อยละ 10 ต่อเดือน มีลูกค้าประมาณเดือนละ 40-50 ราย ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด และมีลูกค้าที่มีตำรวจบ้างเป็นบางเดือน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อให้นางสุนีย์ ลาภหิรัญชี้แจงถึงที่มาของทรัพย์สินทั้งหมด หากมาด้วยความบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้จะคืนให้กับนางสุนีย์ ลาภหิรัญส่วนที่มาจากการปล่อยเงินกู้นั้นจะยึดไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายสุทัศน์ วัฒนะกูล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯจังหวัดตราด ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้แม้ว่าเจ้าหนี้จะถูกจับกุมแล้ว แต่การกู้ยืมเงินของลูกหนี้กับเจ้าหนี้นั้นไม่ได้เป็นศูนย์ แต่จะให้ทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนดเหมือนเดิม
