ชาวนาจังหวัดกาฬสินธุ์ พื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม นาข้าว บ่อเลี้ยงปลา ได้รับความเสียหาย ยังไม่ได้รับเงินชดเชย ประสบความเดือดร้อนด้านการดำรงชีวิต ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด โดยออกหาเก็บเมล็ดข้าวเปลือกที่ตกหล่นตามที่นา มารวบรวมไว้สีกินประทังชีวิต ขณะที่ในบางรายต้องขอซื้อข้าวเปลือกจากเพื่อนบ้านไว้เพื่อเลี้ยงสมาชิกในครอบครัว
วันที่ 16 ธ.ค.60 จากการติดตามสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านใน จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจากอิทธิพลพายุตาลัสและเซินกา เขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.ร่องคำ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2560 ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งและเอ่อเข้าท่วมพื้นที่นา บ่อเลี้ยงปลา เสียหายเป็นบริเวณกว้างกว่า 3 แสนไร่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเกษตรและผู้นำชุมชน ได้ทำการสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการเสร็จแล้วทุกขึ้นตอนแล้ว แต่จากการสอบถามทราบว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินชดเชย
นางม้วน ภูจ่าพล อายุ 72 ปีบ้านเลขที่ 44 ชาวนาบ้านดอนยานาง หมู่ 7 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีที่นาเพียง 2 ไร่ ซึ่งก็ทำไว้พอได้กินในครัวเรือนกับลูกสาว ที่ผ่านมาบางปีที่ฝนดี ก็พอได้ข้าวกินตลอดปี แต่บางปีที่ฝนแล้ง ผลผลิตได้น้อยก็ต้องซื้อข้าวสารกิน สำหรับปีนี้ถูกน้ำท่วมในช่วงกำลังจะแตกกอ และพอน้ำลดจึงยังมีเหลือให้ออกรวงบ้าง ซึ่งก็เหลือกอข้าวอยู่เพียงไม่กี่กอ แต่ด้วยความเสียดายและสำนึกในบุญคุณข้าว จึงได้นำเคียวมาเก็บเกี่ยวรวงข้าว เพื่อเอาไว้ทำเมล็ดพันธุ์
ขณะที่นางหน่อย ภูใสจุง อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 102 ชาวนาบ้านเหล่า ม.5 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่นาของตนมี 10 ไร่ แต่ถูกน้ำท่วมเสียหายหมด ช่วงแรกๆก็ได้รับการเยียวยาจากส่วนราชการ มูลนิธิ และหน่วยงานต่างๆเข้ามาแจกจ่ายถุงยังชีพ พอบรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง แต่หลังจากนั้นไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลืออีกเลย ทำให้ประสบกับความขัดสนในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก ทุกวันก็อยู่ด้วยความอดทน และด้วยความหวังที่จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล
ในช่วงที่รอคอยนี้ ก็ได้ชักชวนเพื่อนบ้าน ออกหาเก็บรวงข้าวและเมล็ดข้าวเปลือกที่ตกหล่นตามที่นา ในเขตที่น้ำไม่ท่วม โดยจะพากันปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ พบผืนนาตรงไหนที่เก็บเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ ก็จะขออนุญาตจากเจ้าของนาก่อน เขาก็อนุญาตเพราะสงสาร และเห็นอกเห็นใจที่ไม่มีข้าวกิน ซึ่งจะได้วันละถุง 2 ถุง ตามกำลังของคนแก่ จากนั้นก็จะนำไปคัดแยกเอาสิ่งเจือปนออก ก่อนนำไปสีเป็นข้าวสารมาหุงเลี้ยงคนในครอบครัว
ด้านนายเสาร์ ภูหวล ชาวบ้านหนองคอนชัย หมู่ 9 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า มีพื้นที่นา 9 ไร่ เช่าคนอื่นอีก 8 ไร่ รวม 17 ไร่ ลงทุนทั้งค่ารถไถนา ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าแรงงาน ค่าปุ๋ยเคมี ไปเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท หวังขายข้าวเปลือกมาใช้หนี้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่ต้นข้าวที่กำลังแตกกองามก็ถูกน้ำท่วมเน่าเสียหายหมด ทั้งตนและเพื่อนชาวนา รวมทั้งคนที่มีบ่อเลี้ยงปลาก็เเทบหมดตัว วันๆได้แต่เฝ้ารอคอยความช่วยเหลือด้านเงินชดเชยน้ำท่วมจากทางรัฐบาล แต่ล่วงเลยมานานกว่า 3 เดือนยังไม่มีวี่แววว่าความช่วยเหลือจะมาถึงเลย
นายเสาร์กล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า เมื่อพื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายหมด ทุกคนทุกครอบครัวได้รับความเดือดร้อนทั่วหน้า จึงเกิดภาวะความเครียด กังวลเรื่องรายจ่ายประจำวัน และหนี้สินที่กู้ยืม ธกส.มารายละหลายหมื่นหลายแสนบาท ต่างก็ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ปลูกผัก ออกหารับจ้าง หาปูหาปลา ขายแรงงานเพื่อซื้อข้าวไว้กินประทังชีวิต ซึ่งตนก็ได้ขอซื้อข้าวเปลือกจากเพื่อนบ้านไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อหล่อเลี้ยงสมาชิกในครอบครัวซึ่งมีทั้งลูกหลาน 4-5 ชีวิต โดยซื้อในราคากิโลกรัมละ 7 บาท ซึ่งจะประหยัดกินให้มากๆ เนื่องจากเงินที่จะซื้อข้าวกินก็หมดแล้ว และไม่มีทุนที่จะทำนาปรังอีกด้วย
