เกิดเหตุคนร้ายสวมไอ้โม่ง บุกขึ้นขโมยทรัพย์สินในรีสอร์ทและบ้านพักของชาวบ้าน ในเขตตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ 2 ครั้งซ้อน ขโมยสร้อยคอและแหวนทองคำหนีลอยนวล ชาวบ้านวอนเจ้าหน้าที่เร่งตามจับดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ และหวั่นได้รับอันตราย
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ร่มเย็นรีสอร์ท ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ด.ต.โสภัณฑ์ ภูพานทอง นายกเทศมนตรีหัวนาคำ นายทศพร บริบูรณ์ ปลัดเทศบาลตำบลหัวนาคำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทต.หัวนาคำ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสอบถามเหตุการณ์กับนายปิยะณัฐ นันอะภัย อายุ 32 ปี ผู้ดูแลรีสอร์ท หลังได้รับแจ้งมีคนร้ายสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าเป็นไอ้โม่ง บุกขึ้นบ้านที่ตั้งอยู่ภายในรีสอร์ทดังกล่าว
ด.ต.โสภัณฑ์ ภูพานทอง นายกเทศมนตรีหัวนาคำ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้รับแจ้งจากนายปิยะณัฐ ผู้ดูแลรีสอร์ทว่า เมื่อตอนเย็นวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้าย 1 คน บุกขึ้นมาในบ้านหวังขโมยทรัพย์สิน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ด้านหลังของรีสอร์ท ฝั่งด้านทิศเหนือ และติดกับกำแพงกับทุ่งนา นอกจากนี้ยังทราบจากนายเสถียร โคตรเขื่อน ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกค่าย หมู่ 3 ต.หัวนาคำ ซึ่งอยู่เขตติดต่อกับรีสอร์ทดังกล่าวว่า มีชาวบ้านรายหนึ่งได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยแหวนทองคำ และสร้อยทองคำ หายไปจำนวนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ หลังจากรับแจ้งตนก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง เพื่อให้มาตรวจสถานที่เกิดเหตุและหาเบาะแสติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดี
ขณะที่นายปิยะณัฐ นันอะภัย อายุ 32 ปี ผู้ดูแลรีสอร์ทกล่าวว่า การกระทำของคนร้ายถือว่าอุกอาจมาก เนื่องจากเป็นการลงมือในช่วงหัวค่ำ ซึ่งเจ้าของบ้านยังไม่หลับนอนเลย โดยขณะเกิดเหตุตนอยู่บ้านหลังแรก ซึ่งอยู่ใกล้ประตูเข้ารีสอร์ท ส่วนบ้านหลังที่ถูกขโมยขึ้นบ้านอยู่หลังถัดไป ซึ่งจะมีน้องสาวอายุ 18 ปีและยายอายุ 65 ปีอาศัย ทั้งนี้ จากการสำรวจร่องรอยคนร้าย คาดว่าน่าจะแอบปีนข้ามกำแพงหลังบ้านเข้ามา แล้วปีนขึ้นไปบนช่องหน้าต่างที่ชำรุด จากนั้นย่องเข้าไปรื้อหาทรัพย์สินในห้อง โชคดีที่ห้องสาวมองเห็นคนร้ายก่อน จึงร้องตะโกนบอกตนในเชิงข่มขู่ว่าขโมยๆ เอาปืนมายิงมันๆ ทำให้คนร้ายตกใจ แล้วอาศัยความมืดกระโดดลงหน้าต่างหลังบ้านและวิ่งหายไปในความมืด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทรัพย์สินจะไม่เสียหาย แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากตอนนี้ ตนและครอบครัวอยู่กันอย่างหวาดผวา กลัวว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอีก เพราะหากเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้าน คนร้ายก็อาจจะลงมือทำร้ายร่างกาย เพื่อปล้นทรัพย์หรือฆ่าปิดปากเพื่อชิงทรัพย์ได้
ด้านนายเสถียร โคตรเขื่อน ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกค่าย หมู่ 3 ต.หัวนาคำ กล่าวว่าเหตุการณ์คนร้ายบุกงัดบ้านชาวบ้านดังกล่าว ตนได้รับแจ้งจากนายปุย ผาลา อายุ 71 ปี บ้านเลขที่ 9 หมู่ 3 ซึ่งเป็นลูกบ้านของตนว่า สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทและแหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ที่ลูกซื้อให้ โดยเก็บรักษาไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนชั้นล่างหายไป และภายในตู้เสื้อผ้ามีร่องรอยถูกรื้อค้น คาดว่าจะถูกคนร้ายแอบเข้ามาทางหลังบ้านขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการติดตามตัวเพื่อหาเบาะแสคนร้าย เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ ที่ทราบว่าบ้านเรือนประชาชนคนใดมีทรัพย์สิน ก็จะฉวยโอกาสเข้าไปลักขโมยดังกล่าว
