ชาวบ้านในตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ผวาผีแม่ม่ายอาละวาดคร่าชีวิต หลังมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกัน 3 ศพ ผวาสูบวิญญาณรักหนุ่มตายปริศนาแขวนเสื้อแดงป้องกันเต็มหมู่บ้าน ในวันแห่งความรักชายหนุ่มต่างหวาดผวา หาเสื้อสีแดงมาแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อแก้เคล็ดตามความเชื่อ ขณะที่ผู้หญิงเผยแขวนเสื้อแดงแล้วสบายใจ ไม่ต้องกลัวผู้ชายในบ้านจะเสียชีวิต
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง พบ 2 หมู่บ้านใน ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ คือบ้านเก่าน้อย หมู่ 2 และบ้านโนนรัง หมู่ 3 ซึ่งชาวบ้านได้นำเสื้อและผ้าสีแดงมาแขวนไว้ประตูบ้าน บางบ้านแขวนไว้ที่หน้าบ้าน สองฝั่งข้างทางในหมู่บ้านจึงละลานตาไปด้วยสีแดง นอกจากนี้ ยังมีการนำเสาไม้ลงอาคมและแผ่นทองเหลืองลงอักขระ ฝากด้วยผ้าหลากสีลงยันต์ ฝังไว้ตรงเสาประตูปากทางเข้าหมู่บ้านอีกด้วย ในขณะที่บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเชียบ วังเวง จากการสอบถาม ทราบว่ามีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกัน 3 ศพ จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่ามีผีแม่ม่ายเข้ามาคร่าชีวิต จึงได้นำเสื้อสีแดงและผ้าสีแดงมาแขวนไว้ เพื่อแก้เคล็ด ซึ่งเป็นการป้องกันผีแม่ม่ายตามความเชื่อ
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ สอบถามหลวงพ่อประกอบ กมฺโล พระลูกวัดบ้านเก่าน้อยโนนรัง กล่าวว่าภาพที่เห็นชาวบ้านนำทั้งเสื้อแดงและผ้าแดงมาผูกหรือแขวนไว้หน้าบ้านดังกล่าว ทราบว่าเกิดจากการตื่นกลัวผีแม่ม่าย หลังมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกัน 3 ศพ โดยเริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนนี้ จึงได้นำเสื้อและผ้าสีแดงมาแขวนไว้หน้าบ้าน เพื่อป้องกันผีแม่ม่าย ตามความเชื่อ ที่ปลูกฝังกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทั้งนี้ จากการตรวจประวัติคนเสียชีวิต มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สองศพแรกเป็นชาวบ้านโนนรัง ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ โดยศพแรกเป็นชาย อายุ 83 ปี ศพที่สองเป็นหญิง อายุ 83 ปี ขณะที่ศพที่สามเป็นชาวบ้านเก่าน้อย ซึ่งเป็นชาย อายุ 63 ปี ซึ่งทั้งสามศพเสียชีวิตเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัว
ด้านนายบุญช่วง อนันทะวัน อายุ 77 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่ 2 บ้านเก่าน้อย กล่าวว่า พอมีคนในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงเสียชีวิต ประกอบกับมีข่าวลือว่าผีแม่ม่ายอาละวาด ลูกชายตนจึงหวาดกลัว จึงได้นำเสื้อแดงมาแขวนไว้หน้าบ้าน ซึ่งตนก็ไม่ได้ห้าม เพราะทำแล้วสบายใจ แต่ยังไม่กลัวถึงขนาดนุ่งผ้าถุง หรือทาเล็บ หรือแต่งกายเป็นหญิงตบตาผีแม่ม่าย ขณะที่เพื่อนบ้านคนอื่นๆ ที่มีผู้ชายในบ้านก็หาเสื้อแดงหรือผ้าแดง มาแขวนไว้หน้าบ้าน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หลายคนจะคิดว่า การเสียชีวิตของคนในหมู่บ้าน เป็นเพราะผีแม่ม่ายมาเอาชีวิต จึงได้เอาเสื้อสีแดงและผ้าสีแดงมาแขวนไว้หน้าบ้าน เพื่อเป็นเครื่องรางป้องกัน โดยส่วนตนคิดว่า การเสียชีวิตเป็นเรื่องปกติธรรมดา จึงไม่รู้สึกกลัว เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาจะได้ยินข่าวลือเรื่องผีแม่ม่ายอาละวาดมาตลอด โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง
ขณะที่นางนาง กมลภพ อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ 2 บ้านเก่าน้อย กล่าวว่า หน้าบ้านของตนที่เห็นเสื้อแดงแขวนไว้หน้าบ้านนั้น เป็นการแขวนไว้ตามกระแส เพราะเห็นเพื่อนบ้านเกือบทุกหลังคาเรือนนำมาแขวนไว้ และเพื่อความสบายใจของทุกคนในบ้าน ตนจึงได้นำมาแขวนไว้หลายวันแล้ว ส่วนกรณีที่มีคนตายและมีคนเล่าลือกันไปว่าผีแม่ม่ายมาเอาชีวิตนั้น ตนไม่เชื่อ แต่ก็ไม่เคยลบหลู่ อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเรื่องผีแม่ม่ายอาละวาด และพากันหาเสื้อแดงมาแขวนป้องกัน ใน ต.เจ้าท่าว่างเว้นมานานประมาณ 10 ปี ก็เพิ่งจะกลับมามีข่าวลือในช่วงที่มีคนเสียชีวิตติดต่อกัน 3 ศพในรอบเดือนนี้ ซึ่งเป็นการเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ และไม่ใช่เกิดจากการไหลตาย
ทั้งนี้ นางเนาวรัตน์ ราชมณเฑียร อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 บ้านโนนรัง กล่าวว่า ทุกปีที่ผ่านๆมา จะได้ข่าวลือเรื่องผีแม่ม่ายหรือผีปอบในพื้นที่อื่น ก็เพิ่งจะมีข่าวลือในพื้นที่ ต.เจ้าท่า ในช่วงนี้ ซึ่งตามที่ได้ยินมาจะบอกว่าถ้ามีผู้ชายเสียชีวิตติดต่อกันหลายศพ โดยเป็นการเสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วน หรือไหลตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวบ้านจะมีความเชื่อว่าสาเหตุมาจากผีแม่ม่ายมาเอาชีวิตผู้ชายไปอยู่ด้วยในเมืองผี ส่วนกรณีที่มีคนเสียชีวิตในหมู่บ้านเก่าน้อยและบ้านโนนรังนั้น มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง และระยะเวลาการเสียชีวิตก็ห่างกันหลายวัน ไม่ได้เสียชีวิตแบบเรียงวันเรียงคืนตามที่เคยได้ยินข่าวจากที่อื่น ทั้งนี้ ตนก็ไม่ได้ลบหลู่ เห็นชาวบ้านแขวนเสื้อแดงไว้หน้าบ้าน ตนก็ทำตามด้วย เพื่อความสบายใจของคนในครอบครัว
อย่างไรก็ตาม จากการที่ชาวบ้านเก่าน้อยและบ้านโนนรัง นำเสื้อสีแดงและผ้าแดงมาแขวนไว้หน้าบ้าน จนเต็มหมู่บ้านดังกล่าว ทำให้คนต่างถิ่นที่เดินทางผ่านเข้ามาในพื้นที่เกิดอาการผวา และเล่าลือแบบปากต่อปาก รวมทั้งมีการโพสต์และแชร์ในโลกโซเชียล ทำให้กระแสข่าวผีแม่ม่ายอาละวาดบุกกาฬสินธุ์เกิดขึ้น จึงขวัญผวาและสร้างความสะพรึงกลัวให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้ชาย ที่มีความเชื่อในเรื่องผีแม่ม่าย โดยเฉพาะในวันวาเลนไทน์ทั้งนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: