ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดแผนรับมืออุบัติเหตุปีใหม่เน้นรถบริการติดจีพีเอสชี้คนขับวิ่งเกินอัตรากำหนด ขณะที่ตำรวจเตือนระวังมิจฉาชีพโดยเฉพาะกลุ่มนักเดินทางอย่ารับของฝากใครเพราะเชื่อว่าในหน้าเทศกาลปีใหม่จะมีการเคลื่อนย้ายยาบ้า
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และนายชีพ น้อมเศียร ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันประเมินความพร้อมในการป้องกันอุบัติเหตุและปัญหาอาชญากรรม โดยใช้พื้นที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นจุดการประเมินเพื่อเข่าสู่ห่วงรณรงค์ 7 วันอันตรายในหน้าเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และในปีนี้คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับสู่มาตุภูมิมากขึ้น
การประเมินผลขณะนี้ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า มีรถตู้ที่คาดว่าจะวิ่งรับประชาชนในหน้าเทศกาลมากกว่า 50 คัน แต่ทุกคันจะต้องขึ้นทะเบียนขนส่งและติดจีพีเอส ในขณะที่รถทัวส์สายปกติทางไกลอาจจะมีการเสริมเพื่อรองรับการเดินทาง ซึ่งในขณะนี้รถทุกคันได้ติด จีพีเอส โดยได้แสดงเทคโนโลยีการตรวจจับความเร็ว ซึ่งก็ปรากฏว่ามีรถรับจ้างที่วิ่งเร็วกว่ากฎหมายกำหนด ที่ปรากฏเป็นสีแดง เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกตัวเข้ามาเตือนและทำบันทึกเพื่อทำการอบรม
นายชีพ น้อมเศียร ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายจะเริ่มต้นขึ้นในปี 2561 ซึ่งในช่วงนี้กรมการขนส่งได้อนุโลมในการจับปรับ ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึง 5,000 บาท ต่อผู้ขับรถรับจ้างที่ทำการละเมินกฏหมายไม่ว่าจะเป็นการรูดบัตร ที่ไม่แสดงตัวผู้ขับรถและอัตราความเร็ว เกินกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เบื้องต้นยังพบว่ามีการใช้ความเร็วเกิดกว่ากำหนดในกรณีนี้หากผู้ใช้บริการพบว่าไม่ปลอดภัยสามารถเข้ามาร้องทุกข์ได้ที่สถานีขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการ
ขณะที่พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในหน้าเทศกาลประชาชนต้องระวังมิจฉาชีพทุกประเภทและโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเดินทางต้องไม่รับฝากของใครเพราะเสี่ยงต่อการเคลื่อนย้ายยาเสพติด ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งกดดันเพื่อป้องกันยาเสพติดผ่านเข้ามาในพื้นที่กาฬสินธุ์ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่เป็นทางผ่านและพักยา นอกจากนี้ตำรวจก็ยังคงเปิดโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจซึ่งหากสนใจก็สามารถติดต่อไปยังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ในพื้นที่เพื่อทำการฝากบ้านเป็นการป้องกันอาชญากรรมด้วย
