ตำรวจนำกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านใกล้เคียงมาสอบปากคำ พร้อมคุมตัวชายวัย 45 ปี ต้องสงสัยเหตุฆ่าโหดทุบศีรษะ ใช้กรรไกรแทงกกหู และปาดคอซ้ำสาวใหญ่ ทิ้งศพไว้หน้าบ้านมาสอบเข้ม หลังเข้าออกบ้านผู้ตายเป็นประจำและพบคราบเลือดบนเสื้อผ้า ขณะที่ผู้การฯ กาฬสินธุ์เผยสอบปากคำอดีตสามีเก่ายังไม่พบพิรุธ และยังคงให้น้ำหนักไปยังปมยาเสพติด
ความคืบหน้านางพิลาจันทร์ นัคสูน อายุ 47 ปี ชาวบ้านสมสนุก ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ถูกฆ่าโหดทุบศีรษะ ใช้กรรไกรแทงกกหู และปาดคอซ้ำ ทิ้งศพไว้หน้าบ้านพัก โดยเหตุเกิดเมื่อ 13 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มุ่งเป้าไปยังเรื่องชู้สาวและยาเสพติด ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำตัว อดีตสามีเก่าของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดี ว่า เท่าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพศพผู้เสียชีวิต เชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี และน่าจะโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เพราะจากร่องรอยบาดแผลคนร้ายลงมือโหดเหี้ยม ทั้งใช้ไม้ตีศีรษะ กรรไกรแทงบริเวณกกหู และใช้มีดปาดคอหวังเอาชีวิตฆ่าให้ตาย ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.4 ได้ลงมาติดตามคดี และส่งชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนสภ.เขาวงลงพื้นที่ พร้อมเชิญนำตัวอดีตสามีเก่าของผู้เสียชีวิต มาสอบปากคำแล้ว ซึ่งเบื้องต้นให้การว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เพราะช่วงเกิดเหตุได้ไปจับเขียดที่ทุ่งนา และจากการสอบปากคำเบื้องต้นยังไม่พบพิรุธ ค้นบ้านพักไม่พบหลักฐาน ตรวจสอบตามร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผลจากการต่อสู้ อีกทั้งยังมีสภาพร่างกายที่บกพร่องขาเดินเคลื่อนไหวไม่สะดวก จึงปล่อยตัวไปชั่วคราวก่อน แต่ยังคงเฝ้าติดตามพฤติกรรม
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงตั้งสาเหตุการฆาตกรรมไว้ 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องชู้สาว และ2.เรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตมีสามี 2 คน โดยเป็นอดีตสามีเก่า ที่เจ้าหน้าที่เรียกมาสอบ และยังคงคบหากับสามีใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีอาวุธปืน ประกอบกับมีหลักฐานในเรื่องการเขียนจดหมาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดทั้ง 2 ประเด็นทิ้งไป และพุ่งเป้าไปยังประเด็นยาเสพติด เพราะก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตยังมีประวัติเกี่ยวพันธ์กับยาเสพติด และเคยถูกจับในคดียาเสพติด จึงให้น้ำหนักไปยังเรื่องดังกล่าวมากกว่าประเด็นอื่น
โดยกำชับให้พ.ต.อ.กันตพัฒน์ ภาคธรรม ผกก.สภ.เขาวง เร่งติดตามตัวคนร้ายมาโดยเร็วที่สุด และชุดสืบสวนยังลงพื้นที่กำชับวงผู้ก่อเหตุเน้นไปยังกลุ่มบุคคลจำนวน 5 คน ที่เคยรู้จักเคยเข้ามาหาผู้เสียชีวิตเป็นประจำ และทั้งหมดพัวพันธ์เกี่ยวกับยาเสพติด โดยเฉพาะชายอายุ 45 ปี ซึ่งอาศัยอยู่หมู่บ้านใกล้เคียงกันที่เคยเข้ามาหาเข้า-ออกบ้านเป็นประจำและรู้จักกับผู้เสียชีวิต เป็นกลุ่มผู้เสพยาด้วยกัน อีกทั้งจากการตรวจค้นบ้านพักยังพบเสื้อผ้าที่ถูกซักตากไว้มีร่องรอยคราบเลือด จึงเก็บตัวอย่างเส้นผม ลายนิ้วมือของชายต้องสงสัยดังกล่าว และกลุ่มบุคคลต้องสงสัยทั้งหมดไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ พร้อมกับส่งหลักฐานที่รวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะด้ามจอบ กรรไกร และมีด ที่คาดว่าเป็นอาวุธส่งไปตรวจพิสูจน์ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์หาลายนิ้วมือของคนร้าย เพื่อนำมาประกอบการติดตามตัวมาดำเนินต่อไป คาดว่าน่าจะสามารถรู้ตัวคนร้ายในเร็วๆนี้
ขณะที่นางรัตนา โคตรคำทองดี อายุ 53 ปี ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการก่อเหตุฆ่านางพิลาจันทร์ น่าจะมีจากเรื่องยาเสพติด และคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนจากหมู่บ้านอื่น เพราะคนในหมู่บ้านและเดียวกัน รวมถึงญาติพี่น้องไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเป็นการก่อเหตุที่โหดเหี้ยมมาก
