ผู้การฯ กาฬสินธุ์ส่งชุดสืบไล่ล่าแก๊งยาบ้าชิงรถตำรวจสภ.เขาวง กระจายกำลังเฝ้าตามจุดที่คาดว่าหนีไปกบดานในพื้นที่ 4 จังหวัด เชื่อมีขบวนการค้ายาช่วยพาหนี พร้อมฝากแจ้งเตือนใครให้ที่พักพิง และที่หลบซ่อนถูกดำเนินคดีด้วย ย้ำขอให้มอบตัว ลั่นหากต่อสู้ขัดขืนถูกจัดการขั้นเด็ดขาดจับตายทันที
ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์สนธิ กำลังกับสภ.เขาวง ตำรวจภูธร จ.สกลนคร ตำรวจตะเวนชายแดน และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 100 นาย ปิดล้อมป่าภูพาน บริเวณพื้นที่ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร เพื่อติดตามจับกุมตัวนายชัชชญนันท์ จันทร์ภักดี อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และลักทรัพย์ ซึ่งก่อเหตุชิงรถตราโล่ของสายตรวจสภ.เขาวงเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากสืบทราบว่าคนร้ายมากบดานอยู่บ้านหลังหนึ่ง แต่ไหวตัวทันหลบหนีไปได้พร้อมเพื่อนสนิท และพกพาอาวุธปืนไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดของอาวุธปืนและกระสุนปืนได้จำนวนมาก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ที่พักพิงแก่ผู้กระทำผิดและมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับนายสมคิด เตโช อายุ 55 ปี และภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.20 ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกันปิดล้อม ซึ่งผู้ต้องหาไหวตัวทัน ล่าสุดจากการสอบถามพยานประชาชนในพื้นที่ทราบว่า คนร้ายและเพื่อนสนิทที่ให้การช่วยเหลือได้หลบหนีออกจากป่าภูพานแล้ว โดยคาดว่าได้ขี่รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านไป ทั้งนี้ได้ส่งชุดสืบสวนกระจายกำลังแยกกันออกเป็น 4 ชุด เฝ้าติดตามตัวตามจุดที่คาดว่าคนร้ายจะไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.สกลนคร กาฬสินธุ์ นครพนม และมุกดาหาร เนื่องจากทราบข่าวคนร้ายมีเครือข่ายที่เป็นขบวนการค้ายาเสพที่อยู่ใน 4 จังหวัดนี้คอยให้การช่วยเหลือพาหลบหนี อีกทั้งจากข้อมูลยังทราบว่ามีภรรยาหลายคนที่อยู่ในพื้นที่ และมีภรรยาเป็นคนสปป.ลาวอีกด้วย
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า การหลบหนีของคนร้ายรายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังทราบว่ามีอาวุธปืนพกพาและติดตัวตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายใช้ความระมัดระวังและรอบครอบในการเข้าจับกุมตัว ซึ่งหากคนร้ายมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดการขั้นเด็ดขาดทันที แม้จะเป็นการจับตายก็ตาม ซึ่งทางที่ดีควรที่จะเข้ามามอบตัวสู้คดีจะดีกว่า อย่างไรก็ตามอยากฝากไปยังผู้ที่ช่วยคนร้ายในการหลบหนีหรือให้ที่พักพิงหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบจะถูกดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ฝากถึงประชาชนในพื้นที่หากพบเห็นบุคคลแปลกหน้า และคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายรายนี้ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทันที เพราะถือเป็นบุคคลอันตราย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: