แก๊งมอดไม้สุดเหิมควงปืนปิดล้อมโรงเรียนตัดต้นพะยูงคืนเดียว 2 แห่งส่งท้ายปีเก่า ภายในโรงเรียนดงน้อยสงเคราะห์ บ้านดงน้อย ม.3 ต.ห้วยโพธ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และในโรงเรียนหนองโพนวิทยายน บ้านหนองโพน ม.1 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งชาวบ้านเห็นเต็มตาแต่ไม่กล้าห้าม หวั่นเกิดอันตราย เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธครบมือ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 ธันวาคม 2560 นายฉัททันต์ สายาพัฒน์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.2 (ดงแม่เผด) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์เข้าตรวจสอบต้นพะยูงภายในโรงเรียนดงน้อยสงเคราะห์ บ้านดงน้อย ม.3 ต.ห้วยโพธ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาลักลอบตัดและนำไม้หลบหนีไปโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดยจากการตรวจสอบ พบต้นพะยูงขนาดใหญ่เท่ากับหนึ่งคนโอบ อายุมากกว่า 40 ปี สูงประมาณ 20 เมตร ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าโรงเรียนดงน้อยสงเคราะห์ ถูกตัดล้มลงเหลือแต่ตอและกิ่ง ส่วนลำต้นยาวประมาณ 12 เมตร ถูกตัดและนำขึ้นรถหลบหนีไป โดยมีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์และต่างวิพากษ์วิจารณ์การก่อเหตุของคนร้าย ที่ลงมืออย่างอุกอาจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง เนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้อยู่กลางหมู่บ้าน และบริเวณที่ต้นพะยูงถูกตัดนั้นก็อยู่ห่างจากบ้านเรือนประชาชนและบ้านพักครูเพียง 30 เมตร และที่สำคัญในขณะก่อเหตุมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครกล้า และไม่สามารถเข้าไปห้ามได้ เนื่องกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งถืออาวุธปืน กระจายกำลังกันปิดทางเข้าออกโรงเรียนไว้และห้ามชาวบ้านเข้ามายุ่งเกี่ยว จนทำให้ผู้ใหญ่บ้านต้องประกาศออกทางหอกระจายข่าว แจ้งให้ชาวบ้านทราบว่ามีคนร้ายกำลังตัดไม้พะยูง และมีอาวุธปืนจึงทำให้กลุ่มคนร้ายตกใจและหลบหนีไป
นายบุญล้อม เปี่ยมรัฐหิรัญ ผู้ใหญ่บ้านดงน้อย ม.3 กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณตี 3 ชาวมาแจ้งว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์อย่างน้อย 8 คน ใช้รถกระบะไม่ทราบสีและยี่ห้อ 2 คัน และรถยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์สีขาวเข้ามา และกำลังตัดต้นพะยูงในโรงเรียน และกำลังขนไม้ขึ้นรถ โดยทั้งหมดสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าและมีอาวุธปืนครบมือ กระจายกำลังกันปิดล้อมโรงเรียนไว้ ตนจึงแจ้งตำรวจพร้อมกับประกาศออกทางหอกระจายข่าว เพื่อเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง จึงทำให้คนร้ายไหวตัวทันและขนไม้หนีไป ทั้งนี้ต้นพะยูงดังกล่าวชาวบ้านร่วมกันปลูกไว้ตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียน มีอายุอย่างน้อย 40 ปี ซึ่งทุกคนมีความหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ แต่กลับมาถูกตัดไป
อย่างไรก็ตามคาดว่าคนร้ายน่าจะวางแผนมาเป็นอย่างดี และเข้ามาดูลาดเลาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเมื่อ 2-3วันก่อน ชาวบ้านเห็นรถคนแปลกหน้าเจ้ามาจอดในโรงเรียนหลายครั้ง อีกทั้งยังพบรอยเจาะรูตามต้นพะยูงที่เหลืออยู่ประมาณ 15 ต้น ซึ่งคาดว่าเป็นการสำรวจแก่นไม้พะยูง เพื่อเตรียมการก่อเหตุอีก ดังนั้นจึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ส่วนชาวบ้านนั้นจะมีการจัดเวรยามกันเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาต้นพะยูงไว้ให้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรักษาได้ถึงขนาดไหน เพราะกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีอาวุธปืนทุกครั้ง จึงทำให้ขาวบ้านเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันและช่วงเวลาไล่เลี่ยกันอีก โดยกลุ่มคนร้ายประมาณ 8-9 คน ได้เข้าไปตัดต้นพะยูงอายุกว่า 100 ปี ขนาดเท่ากับสองคนโอบ ในโรงเรียนหนองโพนวิทยายน บ้านหนองโพน ม.1 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งคนร้ายได้สวมหมวกไหมพรมและมีอาวุธครบมือ ทำการตัดกุญแจประตูทางเข้าโรงเรียน และใช้แก๊สตัดกรงเหล็กที่คณะครูและชาวบ้าน ร่วมกันล้อมกรงต้นพะยูงไว้ เพื่อป้องกันการลักลอบตัด ก่อนที่คนร้ายจะตัดเอาลำต้นพะยูงประมาณ 6 เมตรหลบหนีไป ซึ่งมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป เนื่องจากคนร้ายถืออาวุธปืนปิดทางเข้าออกไว้ทั้งหมด
นายทรัพย์ วรรณอำไพ ผอ.โรงเรียนหนองโพนวิทยายน กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณตี 2 ซึ่งมีฝนตก โดยมีนักการภารโรงและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดรั้วโรงเรียน ได้ยินเสียงต้นไม้ล้ม และมองเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังตัดต้นพะยูง ที่อยู่ข้างอาคารเอนกประสงค์ในโรงเรียน และนำขึ้นรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม เพราะกลุ่มคนร้ายมีอาวุธปืน ปิดทางเข้าออก และขี่รถจักรยานยนต์ถือปืนขับวนไปมาเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กระทั่งรุ่งเช้าพบต้นพะยูงถูกตัดล้มลงแล้ว ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วต้นพะยูงในโรงเรียนถูกตัดไปแล้ว 3 ต้น ทางคณะครูและชาวบ้านจึงสร้างคันดินเป็นรั้วรอบโรงเรียน พร้อมทั้งขุดหลุมพรางตลอดแนวเพื่อเป็นกับดัก และสร้างกรงเหล็กเพื่อป้องกันการลักลอบตัด แต่ก็ไม่สามารถป้องกันกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้ เพราะยังคงเข้ามาก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า กลุ่มคนร้ายยังก่อเหตุตัดต้นพะยูงขนาดใหญ่เท่ากับสองคนโอบในโรงเรียนแกเปะราษฏร์นิยม บ้านแกเปะ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยพฤติกรรมก่อเหตุลักษณะเดียวกัน คือมีอาวุธปืนครบมือ ปิดล้อมทางเข้าออก ซึ่งหลังจากตัดต้นพะยูงล้มลงแล้ว คนร้ายไม่ได้นำเอาไม้ไปด้วย เนื่องจากต้นพะยูงต้นนี้แก่นในเป็นโพรงขายไม่ได้ราคา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะเป็นกลุ่มเดียวกันและทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งมักจะก่อเหตุในโรงเรียน แม้มีบ้านเรือนประชาชนอยู่จำนวนมากก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึดไม้ทั้งหมด ก่อนที่จะนำเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.2(ดงแม่เผด) ซึ่งทาง พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
