ชาวบ้านเล่านาทีระทึกพนังกั้นแม่น้ำชีแตกยาวกว่า 50 เมตรกลางดึก พากันหอบข้าวของหนีตายอลหม่าน เผยหนักสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้ว 376 หลังคาเรือน ส่วนจุดพนังแตกยังไม่สามารถซ่อมและอุดรอยขาดได้ เตรียมนำเครื่องจักรเข้าทำการซ่อมแซม พร้อมแจ้งเตือน 2 ตำบลในอำเภอกมลาไสยเตรียมรับน้ำขนของขึ้นที่สูง
จากกรณีพนังกั้นแม่น้ำชีขาดกว่า 50 เมตร ที่บริเวณ กม.6 บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 400 หลังคาเรือน ในพื้นที่ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย นอกจากนี้มวลน้ำมหาศาลยังไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรนาข้าวหลายพันไร่ และขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากจุดพนังขาดยังไม่สามารถอุดรอยแตกได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมั้งอาสาสมัครกู้ภัยยังคงลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้ตั้งศูนย์บัญชาการณ์อยู่ที่อำเภอฆ้องชัย เป็นจุดศูนย์กลาง โดยการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำทางสำนักงานชลประทานเขต 6 จ.ขอนแก่น ได้นำเครื่องจักรกลหนัก ลงพื้นที่ โดยจะทำนำกล่องหินเข้าซ่อมแซมตรงจุดที่พนังขาด ซึ่งขณะนี้ความเสียหายมีความกว้างกว่า 50 เมตร ซึ่งทุกหน่วยงานอยู่ระหว่างการระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมพร้อมกำชับให้อำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่อพยพมาอาศัยที่บ้านนายสมคิด ชนะบุญ นายก อบต.ลำชี และเขื่อนวังยาง ประมาณ 200 คน โดยจัดตั้งโรงครัวประกอบอาหาร และลำเลียงน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ส่วนหน้าในจุดเผชิญเหตุทางน้ำ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าบ้านสะดำศรี บ้านวังยาง ระดับน้ำสูง 3-4 เมตร และยังขยายเป็นวงกว้างเรื่อยๆ เบื้องต้นมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วม 376 หลังคาเรือน ใน 4 หมู่บ้านของ ต.ลำชี มีผู้ได้รับผลกระทบ 1,560 คน
ด้านนายสมศักดิ์ ชนะบุญ อายุ 55 ปี ชาวบ้านใน ต.ลำชี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 20.00 น.ทราบข่าวว่าพนังเริ่มขาด ก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะประกาศแจ้งเตือนให้ขอของขึ้นที่สูง และให้เตรียมอพยพไปที่ปลอดภัย จากนั้นไม่นาน ไม่ถึง 10 นาทีปริมาณน้ำก็ไหลทะลักเข้ามาและเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้องขนของขึ้นชั้น 2 ของบ้าน แต่ก็มีบางครอบครัวได้อพยพหนีไปก่อนในช่วงที่มีการประกาศเตือนแล้ว ทั้งนี้แม้พื้นที่ ต.ลำชีจะอยู่ติดกับแม่น้ำชี และมีพนังกั้นน้ำคั่น แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จะมีเพียงน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวและถนนเท่านั้น ไม่เหมือนกับครั้งนี้ที่ไหลท่วมรวดเร็วมาก คาดว่าจะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบหลายสิบปี
ขณะที่นายอดุลย์ ลือทองจันทร์ อาสาสมัครกู้ภัยกาฬสินธุ์ จุดฆ้องชัย ซึ่งเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านวันเกิดเหตุ เล่าว่า หลังได้รับแจ้งได้เข้ามาช่วยเหลืออพยพประชาชน ซึ่งพอมาถึงหมู่บ้านไม่นานน้ำก็ท่วมอย่างรวดเร็ว หลายคนต้องรีบขนของขึ้นชั้น 2 และรีบอพยพหนีน้ำกันอลม่าน ไปอยู่ที่ปลอดภัย ซึ่งตั้งแต่เกิดมาไม่เคยอยู่ในพื้นที่ ไม่เคยเจอมาก่อน มีในช่วงปี 2521 น้ำท่วมแต่ก็ไม่หนักขนาดนี้
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าที่หอประชุม อบต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ได้มีประชุมร่วมกันระหว่าง ต.ธัญญา และ ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำที่คาดว่าจะไหลมาจาก อ.ฆ้องชัยทะลักเข้าท่วม 2 ตำบล ในเร็ว ๆ นี้ พร้อมเตรียมจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือเฝ้าระวังน้ำอย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นทางอำเภอกมลาไสย ได้กำหนดจุดอพยพไว้ที่โรงเรียนธัญญาพัฒนวิทย์ จุดอพยพสัตว์เลี้ยง ที่สาธารณะ หมู่ 12 ตำบลธัญญา และกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ซักซ้อมข้อปฏิบัติการเผชิญเหตุทางน้ำ และเตือนภัยให้กับประชาชนให้ทราบในทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งคาดการณ์ว่ามวลน้ำน่าจะเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านไม่น้อยกว่า 7,500 ไร่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: