กาฬสินธุ์คืบหน้าซ่อมพนังขาดเรียงหินป้องกันการกัดเซาะเพิ่มได้แล้ว เตรียมหย่อนตะแกรงเหล็กแกเบรียลใส่หินหยุดการไหลของน้ำ แต่ยังมีอุปสรรคเนื่องจากกระน้ำยังไหลเชี่ยวและมีความลึกมาก ขณะที่รองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ และเหล่ากาชาด นำสิ่งของบรรเทาทุกข์จากสภากาชาดไทย ออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยตามหมู่บ้านและศูนย์อพยพ
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การซ่อมแซมพนังกั้นแม่น้ำชีขาดเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร ที่บริเวณบ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ทำให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ต.ลำชี อ.ฆ้องชัยกว่า 400 หลังคาเรือน และเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรอย่างน้อย 20,000 ไร่เมื่อคืนของวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา และปัจจุบันคาดว่ามวลน้ำจะเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรขยายวงกว้างมากขึ้น รวมทั้งพื้นที่ตำบลธัญญา และตำบลเจ้าท่าอำเภอกมลาไสย ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงด้วย เนื่องจากยังไม่สามารถซ่อมแซมพนังจุดที่ขาดได้
ทั้งนี้ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่จากแขวงหลวงชนบทกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สำนักชลประทานที่ 6 จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ อบจ.กาฬสินธุ์ แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ชลประทานกาฬสินธุ์ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว พร้อมผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ยังคงนำเครื่องจักรเร่งดำเนินการซ่อมแซมพนังอย่างต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ปรับเคลียร์เส้นทาง เพื่อบรรทุกหินขนาดใหญ่เรียงไว้ตามแนวพนังกั้นน้ำ รวมทั้งนำหินใส่ตะแกรงเหล็กเรียงไว้ได้แล้วกว่า 2 เมตร เพื่อลดความแรงกระทบของกระแสน้ำ และเป็นการป้องกันแรงของน้ำที่จะกัดเซาะขาดเพิ่ม ซึ่งการดำเนินการซ่อมแซมเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากปริมาณน้ำชีมีจำนวนมาก กระแสน้ำจุดที่ขาดยังไหลแรงและมีความลึก แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถหยุดการเซาะพนังกั้นน้ำไม่ให้ขยายวงกว้างมากขึ้นได้แล้ว ซึ่งยังมีระยะทางขาดยาวกว่า 50 เมตรเท่าเดิม และหลังจากนี้จะมีการนำแท่งปูนมาเรียง และนำตะแกรงเหล็กแกเบรียลใส่หินมาวางทับซ้อน เพื่อหยุดการไหลของน้ำ และเข้าเสริมคันดินต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง แต่ต้องใช้เวลาซ่อมสักระยะ
ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการนำเครื่องจักร และเครื่องไม้เครื่องมือเข้ามาซ่อม โดยการนำวัสดุพวกหินขนาดใหญ่เข้าเรียง เพื่อหยุดการกัดเซาะขาดเพิ่ม ล่าสุดสามารถควบคุมป้องกันไม่ให้มีการกัดเซาะขาดหรือทรุดเพิ่มได้แล้ว ความกว้างยังเท่าเดิม 50 เมตร แต่ติดปัญหาที่การนำหินเข้ามาเรียงและอุดบริเวณด้านติดตะวันตก เพราะการซ่อมแซมทำพร้อมกันสองฝั่ง ซึ่งฝั่งนี้จะต้องบรรทุกหินมาจาก จ.ขอนแก่น จึงอาจจะล่าช้าไปบ้าง ซึ่งก็ได้ระดมรถบรรทุกขนย้ายมาเพิ่ม ส่วนด้านทิศตะวันออก นั้นมีหินสต๊อกไว้แล้วที่บริเวณเขื่อนวังยาง อ.ฆ้องชัย จึงสามารถนำหินเข้าเรียงได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ผลัดเปลี่ยนทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อดำเนินการซ่อมแซมพนังที่ขาดให้ได้เร็วที่สุดโดยได้รับการสนับสนุนไฟส่องสว่างเพิ่มจากศูนย์ปภ.เขตขอนแก่น
ขณะที่การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ นำสิ่งของบรรเทาทุกข์จากสภากาชาดไทย สาขา จ.สุรินทร์ และอำเภอฆ้องชัย ออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยตามหมู่บ้าน และศูนย์อพยพอย่างทั่วถึงทุกครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน มูลนิธิต่างๆและประชาชนต่างนำสิ่งของช่วยมาช่วยเหลืออีกด้วย สำหรับสถานการณ์ภาพรวมที่ได้รับผลกระทบจากพนังกั้นน้ำชีขาดครั้งนี้ เบื้องต้นได้รับผลกระทบที่อำเภอฆ้องชัย 4 ตำบล 671 หลังคาเรือน ถนน 7 สาย พื้นที่การเกษตรกว่า 20,000 ไร่ และยังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: