ควันไฟที่พวยพุ่งและกลิ่นเหม็นไหม้ที่โชยมาจากบ่อทิ้งขยะ 30 ไร่ เข้าสู่วันที่ 4 เริ่มส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบบ่อทิ้งขยะ ในเขตอำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ทุกทิศทาง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านประสานนายกเทศมนตรีตำบล คัดกรองผู้สมัครใจอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เบื้องต้น 5 ราย พร้อมเรียกร้องภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดกลุ่มควันและมลพิษ ที่โชยออกมาจากกองเศษซากพลาสติกในลักษณะไฟสุมขอนตลอดวันตลอดคืน
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อทิ้งขยะของเทศบาลตำบลโนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 12 มี.ค.66 ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมเพลิงและมลพิษ ก่อนฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือค่า PM 2.5 จะแผ่ปกคลุมทั้งอำเภอ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้าน ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 15 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโคกไม้งาม หมู่ 3 ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุไฟไหม้บ่อทิ้งขยะ และได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันไฟและกลิ่นเหม็นไหม้มากกว่าชุมชนอื่นๆ พบว่ามีชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการดับควันไฟและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ให้หายไปในเร็ววัน เนื่องจากเป็นมลพิษและเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้านมากขึ้นตามลำดับ
เวลา 11.00 น. นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่พร้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยได้รับการประสานจากนางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ เรื่อง ขอสนับสนุนเครื่องเจาะบ่อบาดาลในการเจาะหาแหล่งน้ำเพื่อดับไฟบริเวณบ่อขยะเนื่องจากน้ำไม่เพียงพอและต้องลำเลียงน้ำจากแหล่งน้ำมาระยะทางไกลอาจทำให้สถานการณ์ดับไฟได้ช้ามากขึ้น โดยได้นำรถเจาะบ่อบาดาลลงไปพร้อมทั้งรถน้ำ อบจ.กส.สนับสนุนภารกิจอีก 2 คัน เบื้องต้นมีรถน้ำ รถดับเพลิง จาก อปท.ในอ.สหัสขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยสนับสนุนภารกิจดับไฟครั้งนี้โดยวันนี้มีจำนวน 14 คัน ซึ่งสถานการณ์ก็ดีขึ้นตามลำดับและพื้นที่ก็ตั้งศูนย์อำนวยการเฝ้าระวังภัยครั้งนี้ และประสานส่วนราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องสนับสนุนภารกิจนี้ให้ระงับเหตุได้เร็วที่สุดต่อไป
ขณะที่บริเวณบ่อทิ้งขยะ ที่ถูกไฟเผาผลาญไปกว่า 90% ถึงแม้ประกายไฟจะมอดลง แต่ยังคงมีควันพิษพวยพุ่งออกมาจากกองขยะ และถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกควันและกลิ่นเหม็นไหม้ ทั้งนี้ นายธวัชชัย บุญทานันท์ นายก อบต.สหัสขันธ์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ ขณะที่มีชาวบ้านที่ประกอบอาชีพหาของเก่า 5-6 คน ยังคงขุดคุ้ยหาของเก่าประเภทเศษเหล็ก โลหะ อลูมิเนียม จากซากกองขยะตามปกติ โดยบอกว่าเป็นเรื่องจำเป็นต้องหา เพื่อหล่อเลี้ยงชีพ ทั้งนี้พากันเสาะหาของเก่าในโซนเหนือลม เพื่อหลบเลี่ยงกลุ่มควันจากกองขยะ ที่ยังพวยพุ่งออกมาเป็นบริเวณกว้าง และถูกกระแสลมพัดพาปกคลุมไปทั่วทิศทาง
นายธวัชชัย บุญทานันท์ นายก อบต.สหัสขันธ์ กล่าวว่าหลังเกิดเหตุไฟไหม้บ่อทิ้งขยะของเทศบาลตำบลโนนบุรี 30 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ ต.โนนน้ำเกลี้ยง ทำให้เกิดกลุ่มหมอกควันฟุ้งกระจายไปรอบทิศทาง ตามที่กระแสลมจะพัดพาไป ทั้งรัศมีใกล้ไกลตลอด 3-4 วัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ ในวันนี้จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทรี่เกี่ยวข้อง มาติดตามการแก้ไขปัญหาและประเมินสถานการณ์ ทั้งนี้ ถึงแม้จะควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปไหม้ส่วนที่เหลืออีก 10% แต่ที่ยังคงอยู่คือกลุ่มควันและกลิ่นเหม็นไหม้ จึงอยากเรียกร้องให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยส่วนตัวให้ความเห็นว่า ในเบื้องต้นนี้ควรใช้แบ็คโฮมาขุดหลุมฝังเศษขยะที่กองสุม และเป็นต้นเหตุของกลุ่มควัน ก็จะเป็นการแก้ปัญหาได้รวดเร็วและดีที่สุด
ด้านนางสมหมาย นาไชยเวศน์ ผู้ใหญ่บ้านโคกไม้งาม หมู่ 3 ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผลกระทบจากกลุ่มควันที่ถูกกระแสลมพัดพาเข้ามาปกคลุมชุมชนรอบบ่อทิ้งขยะ โดยเฉพาะบ้านโคกไม้งามที่อยู่ห่างบ่อทิ้งขยะเพียงไม่กี่ร้อยเมตรนั้น ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มควันไฟและกลิ่นเห็นไหม้เป็นอย่างมาก สำหรับตนรู้สึกปวดหัวมาตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.66 บางคนมีอาการแสบเคืองนัยน์ตา ตาแดง หายใจไม่สะดวก ทั้งนี้ สาเหตุมาจากสูดดมควันไฟจากกองขยะ สงสารชาวบ้านที่มีโรคทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้และกลุ่มเปราะบาง โดยมีนำส่งโรงพยาบาลแล้ว 2-3 ราย หลายรายรอลูกหลานจากต่างจังหวัดมารับตัวไป เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ หลายคนอยู่ระหว่างรอดูอาการ และความพร้อมของสถานที่จะเป็นจุดรับผู้อพยพ ที่อาจจะเป็นวัดบางแห่งในเขต อ.สหัสขันธ์ที่อยู่เหนือลม ในส่วนของผู้สมัครใจที่จะอพยพออกจากพื้นที่ เพื่อหลบหนีจากกลุ่มควันและกลิ่นเหม็นไหม้ ได้ประสานนายกเทศมนตรีโนนน้ำเกลี้ยงสำรวจ เบื้องต้นมีแจ้งความประสงค์มาแล้ว 5 ราย
นางสมหมายกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณผวจ.กาฬสินธุ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ อบจ.กาฬสินธุ์ ปภ.จ.กาฬสินธุ์ นายอำเภอสหัสขันธ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตลอดจนผู้บริหาร อปท.ทุกแห่ง ผู้นำชุมชน อสม. พยายามแก้ไขปัญหา ที่ลงพื้นที่เยี่ยมยาม ให้คำแนะนำในการรักษาสุขภาพในช่วงที่กำลังเผชิญกับหมอกควันและมลพิษ อย่างไรก็ตามยังอยากเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการกำจัดกลุ่มควันและกลิ่นเหม็นไหม้ รวมทั้งฟื้นฟูระบบนิเวศน์ที่ถูกไฟเผาผลาญไป ให้กลับคืนมาโดยเร็วไว เพื่อคืนความสุขให้กับชาวบ้านชุมชนรอบบ่อทิ้งขยะ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอสหัสขันธ์ กรณีได้รับผลกระทบจากกรณีไฟไหม้บ่อทิ้งขยะ 30 ไร่ ในพื้นที่ ต.สหัสขันธ์ หมู่ 1,4,9 รวม 410 หลังคาเรือน ประชากร 1,928 คน เป็นผู้สูงอายุ 217 คน เด็กต่ำกว่า 4 ปี 73 คน ผู้ป่วยติดเตียง 7 คน ผู้ป่วยเรื้อรัง 148 คน ซึ่งได้ส่งข้อมูลเสนอขอรับสนับสนุนหน้ากากอนามัย และ N95 กับสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์แล้ว ขณะที่ในส่วนพื้นที่ตำบลอื่นๆ ใน อ.สหัสขันธ์ 8 ตำบล อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล
