ตำรวจกาฬสินธุ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหารตามรวบแก๊งกระเทยอีเวนต์แสบ หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนขโมยผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ พร้อมของกลางจำนวนมาก มูลค่าหลายล้านบาท สารภาพนำไปจัดงานอีเวนต์
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2561 นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับพล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทวีรัตน์ ศรีธวัชพงศ์ รองผบก.ภ. จว.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัด จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วัฒนา เกษรมาลา ผกก.สภ.คำม่วง ร.ต.ท.ธวัชชัย เห็มวัง นายอำเภอคำม่วง พ.ต.ท.วินทุ ฝังใจ รองผกก.(ป.)สภ.คำม่วง พ.ต.ท.พิชิต เขตสกุล รองผกก.สส.สภ.คำม่วง นายสัมพันธ์ ยอยโพธิ์สัย ปลัดอำเภอคำม่วง นายประวิทย์ วงศ์เจริญ กำนันตำบลโพน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหาร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายชัยมงคล เกลี้ยงโสภา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.1 ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยเยาวชน ซึ่งยังเป็นนักเรียน และกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ในพื้นที่ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด อายุระหว่าง 16-18 ปี จำนวน 3 คน พร้อมของกลางผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมทอ ผ้าฝ้าย อุปกรณ์การทอผ้ากว่า 100 รายการ และรถจักรยานยนต์ 2 คัน รวมมูลค่าหลายล้านบาท หลังจากทั้ง 4 คน ร่วมกันขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนก่อเหตุขโมยผ้าไหมจากกี่ช่างทอของชาวบ้านในหลายพื้นที่
ทั้งนี้การแถลงข่าวยังมีชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้เสียหายเจ้าของผ้าไหมแพรวาและผ้าฝ้ายใน อ.คำม่วง อ.สมเด็จ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และ อ.ทุ่งเขาหลวง อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ดกว่า 50 คน เดินทางมาตรวจสอบของกลางที่ถูกขโมยไปอีกด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 4 คน ไปชี้จุดบริเวณที่เข้าไปขโมยผ้าไหมจากกี่ทอผ้าตามบ้านเรือนประชาชน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
โดยนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ตนพร้อมด้วยเพื่อนอีก 2 คน กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4- ม.6 ส่วนนายชัยมงคลนั้น กำลังศึกษาอยู่ กศน.โดยทุกคนจะมีนิสัยเป็นผู้หญิง หรือที่เรียกว่าสาวประเภทสอง ซึ่งระหว่างเรียนก็ได้หารายได้พิเศษ โดยการรับจัดงานอีเวนต์ ทั้งงานบวช งานแต่งงาน และงานต่างๆ ตามที่มีคนจ้าง แต่ไม่มีอุปกรณ์ที่จะไปจัดงาน โดยเฉพาะผ้าไหม เนื่องจากมีราคาแพง ตนและเพื่อนๆ จึงตระเวนขี่รถจักรยานยนต์ออกมาขโมยผ้าไหมแพรวา ผ้าไหม และผ้าฝ้าย เพื่อนำไปจัดงานอีเวนต์ที่รับมา ซึ่งจะเลือกขโมยตามหมู่บ้านที่มีการทอผ้า และอาศัยเวลาตอนกลางคืน ทั้งนี้หลังก่อเหตุไปแล้วหลายครั้งรู้สึกสำนึกผิด และนึกสงสารชาวบ้านที่ทอผ้า เพราะกว่าจะทอได้แต่ละผืนต้องใช้เวลานาน จึงตัดสินใจส่งภาพผ้าไหมมาให้เจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นเบาะแส ให้สามารถตามตัวตนและเพื่อนๆได้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามตัวได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนและเพื่อนต้องขอโทษเจ้าของผ้าไหมทุกคนที่ทำให้เดือดร้อนด้วย
ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน เข้ามาก่อเหตุขโมยตัดผ้าไหมแพรวา ซึ่งอยู่ในกี่และกำลังทอของประชาชนใน ต.โพน ต.นาบอน ต.ทุ่งคลอง อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 17 ราย รวมทั้งมีการขโมยผ้าไหม และผ้าฝ้ายของประชาชนใน อ.สมเด็จ และ อ.กมลาไสยอีกหลายสิบรายด้วย ดังนั้นนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหาร และผู้นำชุมชนลงพื้นที่สืบหาข่าว และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เพราะผ้าไหมแพรวาที่ถูกขโมยไปนั้นหลายผืนมีราคา 20,000 บาท ไปจนถึงราคา 100,000 บาท และแต่ละผืนชาวบ้านต้องใช้แรงกายแรงใจนั่งทอมานานหลายเดือน กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนายประวิทย์ วงศ์เจริญ กำนันตำบลโพนว่า พบเบาะแสคนร้ายที่เข้ามาขโมยผ้าไหม โดยมีหนึ่งในผู้ต้องหาส่งภาพผ้าไหมมาให้ดู ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมทั้งควบคุมตัว และของกลางได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุทางจังหวัดได้กำชับให้ผู้นำชุมชนแต่ละพื้นที่หมั่นตรวจสอบและจัดตั้งเวรยาม เพื่อร่วมสอดส่องบุคคลแปลกหน้าที่อาจจะเข้ามาขโมยทรัพย์สินประชาชนได้
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวีรัตน์ ศรีธวัชพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ซึ่งยังเป็นเยาวชน รับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ โดยเฉพาะหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงและมีการทอผ้าไหม จากนั้นจะเข้าไปขโมยตัดผ้าไหมจากกี่ที่ชาวบ้านกำลังทอแล้วนำไปใช้ในการจัดงานอีเวนต์ที่รับมา ไม่ได้นำไปขาย นอกจากนี้ทั้ง 4 คนยังสารภาพอีกว่านอกจากพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์แล้ว ยังได้ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ดอีกหลายแห่งด้วย ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักทรัพย์ พร้อมกับทำการขยายผล และฝากประชาสัมพันธ์หากประชาชนคนใดที่ถูกขโมยผ้าไหมก็ให้สามารถติดต่อมาได้ที่ สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
