เกิดเหตุแก๊งมอดไม้ไม่ทราบจำนวน ลักลอบเข้าไปตัดไม้พะยูงอายุกว่า 50 ปี 1 ต้น มูลค่ากว่า 570,000 บาท ภายในโรงเรียนนาดีหลุมข้าววิทยา ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่เหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ท้าทายอำนาจรัฐ ก่อเหตุในช่วงที่ทางจังหวัดกำลังไล่เช็คบิล ขบวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียนอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ยังฉวยโอกาส สพฐ.ยกเลิกครูอยู่เวรยาม ก่อเหตุอย่างอุกอาจอีกด้วย ขณะที่ผู้การฯ กาฬสินธุ์ลั่น เดินหน้าเอาผิดข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องถึงที่สุด ไม่มีละเว้นแน่นอน
วันที่ 29 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ศูนย์ กส. 1 (ดงมูล) ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้พะยูงของกลาง จำนวน 9 ท่อน 2.28 ลูกบาศก์เมตร มูลค่ากว่า 570,000 บาท มาเก็บรักษาไว้ภายในจุดจัดเก็บของกลาง สภ.ยางตลาด หลังเกิดเหตุถูกแก๊งมอดไม้ลักลอบตัดในเวลาประมาณ 02.30 น.ของวันที่ 28 ม.ค.67 ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าอาคารโรงเรียนนาดีหลุมข้าววิทยา ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ก่อนที่ทางโรงเรียนจะเข้าแจ้งความ ที่สภ.ยางตลาด และประสานเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ที่ กส.1 (ดงมูล) ร่วมตรวจยึดและอายัดมาเก็บรักษาไว้ดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- รับบุญใหญ่ งานนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมฯ สกลนคร 6-13 มกราคม 2568 ร่วมบูชาเมล็ดข้าวใหญ่ในตำนานเมืองสกลนคร
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
นายศุภชัย มณีกัน อายุ 58 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า บ้านของตนอยู่ไม่ไกลกับจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 02.30 น.สภาพอากาศหนาวเย็นมาก ชาวบ้านทุกคนคงนอนหลับอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่ตนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเหมือนเสียงต้นไม้ใหญ่ล้มดังครืน ตามด้วยเสียงสุนัขเห่า จึงเอาไฟฉายมาส่องมาทางทิศทางที่ได้ยินเสียงดังกล่าว จากนั้นก็มองเห็นเงาตะคุ่มๆของคนร้ายไม่ทราบจำนวน วิ่งขึ้นรถกระบะสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ก่อนที่รถกระบะคันนั้นจะขับขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความสงสัยจึงได้เข้าตรวจสอบบริเวณนั้น พบว่าต้นพะยูงอายุกว่า 50 ปี ถูกแก๊งมอดไม้ตัดโค่นลง แต่ยังไม่ได้ตัดทอนออกไป จึงได้แจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบเรื่อง
ด้านนายชัยศิลป์ ภูดอนม่วง ผอ.โรงเรียนนาดีหลุมข้าววิทยา กล่าวว่า ตนทราบเหตุคนร้ายเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในเวลาประมาณ 03.00 น. เบื้องต้นได้ประสานคณะกรรมการโรงเรียน ผู้นำชุมชน ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและความเสียหาย ก่อนที่จะแจ้งความที่ สภ.ยางตลาด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามลำดับ สำหรับสาเหตุคงเป็นเพราะไม้พะยูงยังเป็นที่ต้องการของนายทุนค้าไม้ข้ามชาติ แก๊งมอดไม้จึงลักลอบเข้ามาตัดในครั้งนี้
ขณะที่นายอดิสร คงสมกัน หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนไม้พะยูงต้นที่ถูกลักลอบตัดในโรงเรียนล่าสุดนี้ มีจำนวน 9 ท่อน ปริมาตรรวม 2.28 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าราคาประเมินกรมป่าไม้ประมาณ 570,000 บาท โดยหลังจากร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด โดย พ.ต.ท.ปฏิวัติ ประวิเศษ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ยางตลาด พ.ต.ท.ไพศาล ใจเกษม พนักงานสอบสวน ได้ตรวจยึดและลงบันทึกแล้ว ก็ได้นำไม้พะยูงของกลางทั้งหมด ไปเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย ณ จุดจัดเก็บของกลาง สภ.ยางตลาด
ทั้งนี้ จากกรณีแก๊งมอดไม้ ลักลอบเข้าไปตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ หรือในสถานศึกษาดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงที่ทางจังหวัด กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น และดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการขออนุญาตตัด ให้อนุญาตตัด และประเมินราคาซื้อขายต่ำผิดปกติ ที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก และโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ขณะที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วไป ว่าเป็นการกระทำที่เหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ท้าทายอำนาจรัฐ รวมทั้งกรณี สพฐ.ยกเลิกครูอยู่เวรยาม ซึ่งเป็นช่องทางให้แก๊งมอดไม้ฉวยโอกาสก่อเหตุในครั้งนี้ จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามตัวแก๊งมอดไม้กลุ่มนี้มาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีตัดไม้พะยูงในโรงเรียน 3 แห่ง ที่พบความผิดปกติในส่วนของการขออนุญาตตัด การให้อนุญาตตัด และประเมินราคาขายต่ำผิดธรรมชาติ ที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธ์ศิลป์ โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก และโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการให้นายอำเภอท้องที่ หรือคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ มีอำนาจแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้นั้น
พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบสำนวนกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ และรับแจ้งความด้วยตนเอง ที่สภ.ห้วยเม็กวานนี้ (28 ม.ค.) แนวทางต่อไปหลังจากนี้ นอกจากจะให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหาในลำดับต่อไป ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อในสำนวนหมดแล้ว ทั้งในส่วนข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เขตพื้นที่การศึกษา ผู้ซื้อ ผู้ขาย รวมทั้งคณะกรรมการประเมินราคา คณะกรรมการสถานศึกษา ก็จะถูกเรียกมาสอบปากคำทุกคน ทุกขั้นตอน ว่ามีไทม์ไลน์อย่างไร การเคลื่อนย้ายไม้พะยูงของกลางไปไหน ยังไง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ซึ่งทางตำรวจยืนยันจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และถึงที่สุด ไม่มีละเว้นแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: