นักศึกษาหนุ่มชาวกาฬสินธุ์เปิดใจ เล่าเหตุการณ์นาทีถูกตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคามบุกห้องจับกุญแจมือกระทืบเหยียบหน้าจนน่วมกระอักเลือด ยันไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมท้าพิสูจน์ประวัติและตรวจปัสสาวะ เผยความฝันอยากเป็นตำรวจ และเตรียมสอบนายสิบ แต่กลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้รับไม่ได้ที่ถูกตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน แต่กลับมาทำร้ายประชาชน
จากกรณีเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.กาฬสินธุ์ และญาติของนายธีระพล รัตน์วิชัย หรือน้องแชมป์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เพื่อขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคามจำนวน 6 คนบุกห้องพักจับใส่กุญแจมือรุมซ้อมจนน่วม บังคับให้รับสารภาพเป็นคนขายยาบ้า สุดท้ายค้นห้องไม่พบหลักฐาน กลับบอกทำผิดคน ทำให้สังคมโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างมาก ซึ่งต่อมานายธีระพล และญาติ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรม จ.มหาสารคาม เพื่อเอาเรื่องถึงที่สุด โดยมีผู้ว่าราชการ จ.มหาสารคาม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.มหาสารคามและเจ้าหน้าที่รับเรื่อง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 นายธีระพล รัตน์วิชัย หรือน้องแชมป์ ได้ลาการเรียน โดยไม่มีกำหนด พร้อมเดินทางกลับมายังบ้านเกิดที่ จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากต้องกลับมาพักฟื้นรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ถูกทำร้าย และหวั่นเกรงความไม่ปลอดภัย โดยมีบรรดาญาติพี่น้องรวมทั้งพระ-เณร คอยสอบถามอาการ
นายธีระพล รัตน์วิชัย หรือน้องแชมป์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 17.40 น. หลังจากที่ตนกลับมาจากเป็นกรรมการตัดสินกีฬาตะกร้อที่มหาวิทยาลัย ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาเคาะห้อง จึงเปิดประตูออกไป จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าวพากันบุกเข้ามา พร้อมพูดว่า “ทำอะไรไว้รู้หมดแล้วรับสารภาพมาซะโดยดี” ซึ่งขณะนั้นตนตกใจ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย และไม่มั่นใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ จึงพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เมืองมหาสารคาม แต่กลับถูกตำรวจล็อคคอเหวี่ยงล้มแล้วจับใส่กุญแจมือ พร้อมกับเอาเท้ากระทืบและเหยียบหน้าให้แนบกับฟื้นปูน ซึ่งตนไม่ได้ต่อสู้ เพราะตำรวจมากันหลายคน ได้แต่เพียงพยายามร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนข้างห้อง กระทั่งถูกเหยียบอย่างแรงจนแทบหายใจไม่ออกจึงบอกตำรวจว่ายอมแล้ว
นายธีระพล กล่าวต่อว่า จากนั้นตำรวจก็ไขกุญแจมือ และบอกว่าให้รับสารภาพมาซะดีๆว่าขายยา 10 เม็ด พร้อมกับเข้าตรวจค้นภายในห้อง แต่ก็ไม่พบของผิดกฎหมาย ซึ่งตนก็ปฏิเสธไปว่าไม่รับ เพราะไม่เคยเสพ ไม่เคยขายยาบ้า ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และท้าให้ตำรวจนำเครื่องมาตรวจปัสสาวะได้เลย แต่ตำรวจไม่ตรวจ จากนั้นได้ไปเรียกเจ้าของหอพักมาเซนเอกสาร และให้ตนเซนชื่อในเอกสารในใบบันทึกเหตุแห่งการตรวจค้นว่ายินยอมให้ตรวจค้นแล้วบอกว่า ทำผิดคน ต้องขอโทษด้วย แล้วพากันเดินกลับโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนต้องจำใจเซนชื่อ เพราะเหตุการณ์ในขณะนั้นต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน
นายธีระพล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์ไปแจ้งแม่และญาติที่อยู่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทุกคนต่างก็ตกใจ และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงนำเรื่องเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม จ.มหาสารคาม พร้อมกับได้โพสต์เฟซสบุ๊ก ขอความเป็นธรรมต่อสังคมให้เห็นพฤติกรรมการกระทำในครั้งนี้
นายธีระพล กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนและครอบครัวเสียความรู้สึกอย่างมาก หมดกำลังใจท้อแท้ในความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นตำรวจในอนาคต ซึ่งกำลังที่จะสมัครสอบนายสิบตำรวจในเร็วๆนี้ เพราะการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย รักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนนั้นเป็นหน้าที่ตำรวจ แต่ตนกลับมาถูกตำรวจทำร้ายร่างกายเสียเอง ซึ่งประชาชนจะหวังพึ่งความปลอดภัยได้ที่ไหน อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ตนได้ยื่นใบลาการเรียน โดยไม่มีกำหนด เพราะต้องกลับมาพักฟื้นรักษาอาการบาดเจ็บตามร่างกาย ทั้งแขน แก้ม และตา ที่เกิดจากการถูกทำร้าย และหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงอยากให้ศูนย์ดำรงธรรมและผู้หลัก ผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: