เกิดอุบัติเหตุหนุ่มใหญ่ขับรถเก่งข้ามเลนพุ่งชนรถกระบะที่สวนทางมา ก่อนที่เสียหลักพุ่งชนประสานงารถผกก.สอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 อย่างจัง ส่งผลให้คนขับรถเก๋งเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 30 ธันวาคม 2561 ร.ต.อ.ไชยสิทธิ์ วรวงศ์ ร้อยเวรสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันที่บริเวณมอดินแดงแยกทางเข้าเทศบาลตำบลโพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ทางหลวงหมายเลข 12 ถนนสายกาฬสินธุ์- อ.สมเด็จ โดยในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และติดอยู่ในซากรถ จึงได้ออกตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพจากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์และอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดกาฬสินธุ์พร้อมนำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากรถ
โดยในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขษ6654 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ารถพังยับเสียหายทั้งคัน และมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่จึงเร่งใช้เครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลือนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาจากตัวรถใช้เวลาไป 10 นาที จึงสามารถนำตัวออกมาได้ พร้อมทั้งเร่งนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ทราบชื่อต่อมาคือนายรุ่งวิกรัย การรักษ์ อายุ 51 ปี ต่อมาไม่นานได้รับแจ้งว่าผู้บาดเจ็บรายนี้ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 9746 สกลนคร สภาพด้านหน้าฝั่งขวาพังยับ ห่างกันประมาณ 200 เมตรพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันนาวาร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 8107 ขอนแก่น สภาพล้อหน้าด้านขวาหลุด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ ซึ่งมี พ.ต.อ.วีระศักดิ์ พิมพ์มีลาย ผกก.สอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เป็นคนขับกลับมาจากทำธุระและกำลังจะเดินทางกลับที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งมีคนนั่งมาด้วยอยู่ด้านหลังอีกสองคน โดยได้ขับรถออกมาจากตัวจังหวัดกาฬสินธุ์ตามท้ายรถกระบะนิสสันนาวาร่า แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่ามีรถยนต์เก๋งวอลโว่คู่กรณีคันดังกล่าวที่ขับสวนทางมาข้ามเลนมาพุ่งเข้าชนรถยนต์นิสสันคันแรกจนล้อหน้าหลุดแล้วเสียหลักพุ่งเข้ามาชนประสานงารถรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนขับรถเก๋งน่าจะหลับใน ซึ่งพนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งที่เสียชีวิตจะได้ติดตามหาญาติเพื่อมารับทราบและนำศพผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
