สพป.กาฬสินธุ์เขต 3 ออกคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการครูหญิงที่ถูกกล่าวหาเป็นนายหน้าหักหัวคิว 13 เปอร์เซ็นต์และเบิกเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ ขณะที่ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์เรียกตัวข้าราชการครูหญิงมารับทราบข้อกล่าวแล้ว
จากกรณีนางเยาวลักษณ์ ภูชุม อายุ 34 ปี ครูวิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางไสว บรรลือเสียง อายุ 60 ปี มารดา เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากได้ขอกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด แต่ถูกนายหน้าที่เป็นข้าราชการครูหญิงเรียกเก็บค่าดำเนินการ 13 เปอร์เซ็นต์ และปลอมเอกสารเบิกเงินไปจำนวน 1,580,300 บาท โดยมีชื่อรองปลัดเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งเป็นผู้เบิกเงิน กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเบื้องต้นสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรวจพบข้อบกพร่องหละหลวมไม่ปฏิบัติตามระเบียบและขัดกับข้อบัง พร้อมสั่งให้แก้ไขภายใน 30 วันตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 นายภัณฑ์รักษ์ พลตื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 (สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ) กล่าวว่า ได้รับรายงายเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งหลังทราบข่าว ประกอบกับมีผู้มาร้องเรียนว่า มีข้าราชการครูหญิงในโรงเรียนบ้านหนองโง้ง ต.กุดค้าว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์เป็นนายหน้าเรียกเก็บค่าดำเนินการกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด 13 เปอร์เซ็นต์ และร่วมกันเบิกเงินกู้ของนางเยาวลักษณ์ ออกจากสหกรณ์ฯจำนวน 1,580,300 บาท นั้น ขณะนี้ทางสพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดได้ออกหนังสือคำสั่งไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโง้ง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของข้าราชครูหญิง เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพื่อที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการสอบวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ทั้งนี้หากผลการสืบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสรุปออกมาพบว่ามีมูล ในเรื่องของวินัยไม่ร้ายแรงทาง สพป.กาฬสินธุ์เขต 3 จะดำเนินการสอบวินัยไม่ร้ายแรงเอง แต่หากพบว่าเป็นความผิดในเรื่องวินัยร้ายแรงก็จะส่งเรื่องไปยังศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป ส่วนทางคดีก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงทางสพป.กาฬสินธุ์เขต 3 จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาร้องเรียนข้าราชการหญิงในเรื่องลักษณะดังกล่าวที่ สพป.กาฬสินธุ์เขต 3 แล้วจำนวน 2 ราย
สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้นพล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัญย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ว่านางเยาวลักษณ์ ภูชุม ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธ์ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เจ้าของคดี พร้อมกับเขียนลายมือชื่อ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับเอกสารที่อ้างว่ามีการปลอมแล้วนำไปเบิกเงิน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังข้าราชการครูหญิง เพื่อเข้ามาให้ปากคำและรับข้อกล่าวหา เบื้องต้นร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมแล้วในวันนี้ ส่วนรองปลัดเทศบาลตำบลนั้นได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนแล้วเพื่อให้ปากคำก่อนหน้านี้เบื้องต้นแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: