X

เหยื่อสหกรณ์เถื่อนหวั่นสูญเงินเกือบ 10 ล้านร้องทหารวอนลุงตู่ช่วย

เหยื่อสหกรณ์เถื่อนหวั่นเงินเกือบ 10 ล้านสูญ เดินหน้าร้องขอความช่วยเหลือ ส่งตัวแทนยื่นหนังสือร้องทุกข์ กับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมวอนพลเอกประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วย ระบุคนใกล้ชิดกลุ่มบุคคลที่อ้างตนเป็นกรรมการสหกรณ์ฯ เป็นคนมีสี และจัดตั้งทนายเข้ามาแทรกแซง หวั่นถูกผู้มีอิทธิพลคุกคามและข่มขู่ด้วยอำนาจทางกฎหมาย

จากกรณีชาวบ้านคำมันปลา ทั้งตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนและศิษย์เก่า โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอห้วยเม็ก (โรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์) เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก หลังพบว่าเงินออมทรัพย์ที่สะสมมานานกว่า 20 ปี ในนามสหกรณ์ออมทรัพย์ของโรงเรียนเงินทั้งหมดได้หายไปหลังครูที่เป็นคณะกรรมการพาเหรดเออรี่รีไทร์ออกหมดยกชุด ขณะที่สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ระบุชัดเป็นการแอบอ้างชื่อนามสหกรณ์ยืนยันไม่มีในทะเบียนรับรอง ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามการทำสำนวนของตำรวจพื้นที่ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 22 ม.ค. 61 ที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 3 นายพิบูรณ์ คำแหงพล ตัวแทนผู้ปกครอง และนายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียน (คำมันปลาผดุงวิทย์) ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พร้อมตัวตัวแทนผู้ปกครองรวม 4 คน ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ โดยมี พ.ต.ธีระศักดิ์ ตรีศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ รับเรื่อง

นายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนฯ กล่าวว่าจากการที่ชาวบ้าน ผู้ปกครอง ถูกกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างเป็นคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ในโรงเรียน รวม 9 คน พากันเออร์ลี่ออกไป 7 คน และเสียชีวิต 2 คน พร้อมเชิดเงินไปหมดเกลี้ยง จากการตรวจสอบไม่มีเงินฝากเหลือในสหกรณ์ฯแม้แต่บาทเดียว ทั้งๆที่มียอดรวมเงินฝากสะสมไม่น้อยกว่า 8 ล้านบาทหรือรวมดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ตอนนี้กังวลว่านอกจากดอกเบี้ยที่ยังไม่ได้รับแล้วเงินต้นที่สะสมมาบางคนเป็นสมาชิกกว่า 20 ปีอาจจะสูญไปหมด

“เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้เข้าแจ้งความกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา เพื่อให้ออกหมายเรียกติดตามตัวคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ที่ยังมีชีวิตทั้ง 7 คนมาไกล่เกลี่ย หลังจากนั้นอีก 2 วันคือวันที่ 19 ม.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งกับกลุ่มชาวบ้านผู้เสียหายว่า กรรมการฯคนหนึ่งซึ่งได้รับหมายเรียก ได้มอบหมายให้ทนายความเข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจากับชาวบ้าน โดยให้ไปพูดคุยกันในหมู่บ้าน ทำให้ตนและชาวบ้านผู้เสียหายรู้สึกผิดปกติ และไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่มีทนายความเข้ามาแทรกแซง”

นายพูนพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ปัญหาเกิดจากคณะกรรมการฯ เป็นฝ่ายสร้างขึ้นมา ซึ่งอาจนำไปปล่อยกู้หรือใช้ประโยชน์ทางอื่น มีเจตนายักยอกและฉ้อโกงประชาชน ชาวบ้านเคยขอร้องให้เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยการประชุมเพื่อหาทางออกก็หลบเลี่ยง และโกหกตลอดมา ก่อนที่จะลาออกจากราชการหลบหนีไป เหมือนมีเจตนาไม่รับผิดชอบใดๆ ถึงวันนี้เมื่อได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับให้ทนายความซึ่งเป็นบุคคลที่สามเข้ามาเป็นตัวแทนเจรจา ตนและชาวบ้านผู้เสียหายจึงหวั่นวิตกว่าจะไม่ได้เงินคืน เพราะอาจถูกฝ่ายกรรมการฯ เล่นแง่โดยจัดหาทนายความมาแก้ต่าง ที่อาจใช้ช่องทางกฎหมายมาทัดทานกระแสชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านไม่ต้องการ เพราะเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ฐานะยากจน เป็นฝ่ายเดือดร้อนเสียหาย จะหาเงินที่ไหนไปจ้างทนายมาสู้คดี สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคืออยากได้เงินคืนเท่านั้น โดยให้กรรมการฯออกมารับผิดชอบ ไม่ต้องการพูดคุยกับทนายซึ่งเป็นคนอื่น หากฝ่ายคณะกรรมการจัดทนายมาเป็นตัวแทนก็จะทำให้ให้ยืดเยื้อ เสียเวลา เหมือนเป็นการข่มขู่ชาวบ้านด้วยกฎหมาย ทำให้ชาวบ้านเป็นทุกข์ใจมากกว่าเดิม เพราะไหนจะรู้สึกเสียดายเงินที่ถูกยักยอกไปแล้ว ยังต้องมาวิตกกังวลกับการที่จะต้องต่อสู้กับนักกฎหมายอีก

“นอกจากนี้ ชาวบ้านยังรู้สึกหนักใจในการเรียกร้องขอเงินคืน เนื่องจากหนึ่งในคณะกรรมการฯ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเป็นคนมีสี (อดีตทหารยศร้อยตรี) ที่อาจจะถูกคุกคาม และไม่ได้รับความปลอดภัย จึงตัดสินใจเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ขอความคุ้มครอง และขอความช่วยเหลือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้จับตาและสั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามากำกับดูแล เพื่อนำไปสู่การคลี่คลายที่ดีและชาวบ้านได้เงินคืน”

ปัญหาต่างๆ มากมาย ท่านยังมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแก้ไขได้หมด เรื่องนี้ก็จึงหวังพึ่งพาว่าท่านจะช่วยชาวบ้านได้ ในนามตัวแทนศิษย์เก่า ผู้ปกครองนักเรียน ที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ฐานะยากจน หวังจะได้ถอนเงินจากสหกรณ์ฯ มาเป็นทุนการศึกษาให้กับบุตรหลาน แต่กลับต้องมาสูญเสียเงินรวมกว่า 10 ล้านบาทให้กับคณะกรรมการฯ อย่างไม่รู้ที่มาที่ไป จึงได้มาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ทหาร ให้เรียกคณะกรรมการฯ เข้ามาไกล่เกลี่ย และวิงวอน “ลุงตู่” แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านคำมันปลาด้วย

ขณะที่ พ.ต.ธีระศักดิ์ ตรีศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้รับเรื่องปัญหาร้องทุกข์ดังกล่าว ก็จะได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับส่งเรื่องไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยหลังจากนี้จะกำกับติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด ในส่วนที่ชาวบ้านผู้เสียหาย เกิดความวิตกกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หรืออาจถูกข่มขู่คุกคามนั้น เบื้องต้นก็จะได้รายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ เข้าไปลาดตระเวน ตรวจตรา และรับแจ้งเบาะแส หรือเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้านในช่วงนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน