เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านห้วยเสือเต้น ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้นบ้านถูกเพลิงไหม้วอด 3 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลอีก 10 ราย หลังเกิดภาวะช๊อค ขณะที่ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์รุดลงพื้นที่ พร้อมสั่งการให้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2562 พ.ต.ท.ชุมพล วันชัย พนักงานสอบสวน สภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฎร ที่บ้านห้วยเสือเต้น ต.โนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยเพลิงไหม้ได้ลุกลามบ้านเรือนราษฎรเสียหายถึง 3 หลังคาเรือน หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาและประสานไปเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลโนนน้ำเกลี้ยง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงนำรถดับเพลิงเข้าฉีดสกัดไฟที่กำลังลุกลาม และรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยว่าที่ร้อยโทอุทิศ คงรอด นายอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นเลขที่ 53 หมู่ 2 บ้านห้วยเสือเต้น ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงถูกไฟไหม้วอดอีก 2 หลัง และกำลังลุกลามไปยังเล้าข้าว เจ้าหน้าบรรเทาสาธารณภัย จาก ต.โนนบุรี ต.โนนน้ำเกลี้ยง ต.นิคม ต.โนนแหลมทอง ต.สหัสขันธ์ ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ และ ต.ขมิ้น ต.หนองสอ ต.ภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงเร่งระดมรถน้ำดับเพลิงเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบ้านทำด้วยไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะที่ทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลสหัสขันธ์ และโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้เร่งนำคนป่วยที่เกิดภาวะช๊อค 10 ราย เนื่องจากตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนหลังเป็นลมหมดสติและช๊อคจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพียงเป็นลมหมดสติ
หลังจากนั้นนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ออมสิน ดาวรุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.กส. นายโสภณ เจริญพร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ ด.ต.ไพศาล มุลมาตร นายก ทต.โนนน้ำเกลี้ยง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งพบครอบครัวที่ถูกเพลิงไหม้ ทั้ง 3 ครอบครัว มีราษฎรที่เดือดร้อน 18 ราย โดยมีครอบครัวนางน้อม การจะโนศรี ซึ่งมีผู้อาศัย 7 คน บ้านเลขที่ 53 หมู่ 2 บ้านห้วยเสือเต้น ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง ครอบครัวนายส่องแสง โสดาสา มีสมาชิกในครอบครัว 7 คน บ้านเลข 51 หมู่ 2 บ้านห้วยเสือเต้น ต.โนนน้ำเกลี้ยง และครอบครัวนายบุญแคน ภูตาคม มีสมาชิก 4 คน บ้านเลขที่ 63 หมู่ 2 บ้านห้วยเสือเต้น ต.โนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยเบื้องต้นคาดว่ามีความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากมีทรัพย์สินมีค่าเสียหายในกองเพลิงหลายรายการอาทิ รถสีข้าว รถจักรยานยนต์ เงินสด ผ้าไหมแพรวา ข้าวเปลือก 56 กระสอบ และทองคำ โดยสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร
ด้านนายส่องแสง โสดาสา หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า มีเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์ไปแจ้งว่าบ้านถูกไฟไหม้ ทั้ง ๆ ที่ตนพึ่งออกจากบ้านไปสวนไม่ถึง 10 นาที พอกลับมาเห็นภาพไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ไหม้ทรัพย์สิน ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนมองกับภรรยาพูดอะไรไม่ออก โดยเฉพาะของมีค่าที่อยู่ในกองเพลิงจะมีทั้งผ้าแพรวาที่ได้รับมาสมัยปู่ย่าตายายกว่า 10 ผืน นอกจากนี้เงินสดกว่า 100,000 บาท ทองคำเกือบ 3 บาท และเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายการทุกอย่างจมอยู่ในกองเพลิงทั้งหมด บ้านไม้ทั้งหลังก็วอดไปด้วย แต่ดีใจที่ทางจังหวัด และอำเภอเข้ามาช่วยปลอบใจ แต่อยากให้เข้ามาช่วยเหลือเพราะไฟไหม้ครั้งนี้ตนเองและครอบครัวก็ไม่ต่างจากคนหมดเนื้อหมดตัว
ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับจิตอาสาที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุภัยพิบัติ รวมทั้งการเตรียมรับผู้มีจิตศรัทธาที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทั้ง 3 ครอบครัว 18 ชีวิต อย่างไรก็ตามในส่วนคดีก็มอบหมายให้ทางตำรวจเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด ขณะที่การช่วยเหลือได้มอบหมายให้ทางนายอำเภอสหัสขันธ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือฯ เบื้องต้นให้เน้นดูแลที่อยู่อาศัยช่วยคราว และเรื่องอาหารการกินอย่างเต็มที่ โดยให้เปิดเป็นโรงครัวกลางเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนก่อน
